ผู้นำเสียงข้างมากของส.ส.สหรัฐฝั่งพรรคเดโมแครตเตรียมลงคะแนนเสียงเรื่องมาตรการจัดเก็บภาษีถึง 90% กับผู้บริหารบริษัทที่ขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งกฎหมายภาษีดังกล่าวเปรียบเสมือนมาตรการตอบโต้หลังจากที่เกิดกรณี อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (AIG) ซึ่งขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 1.73 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งมาจากภาษีของประชาชน จ่ายเงินโบนัสให้กับพนักงาน 4,600 คนถึง 165 ล้านดอลลาร์
สเตนีย์ โฮเยอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนรษฎรสหรัฐจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า คาดว่าจะมีการลงคะแนนเสียงสนับสนุนกฎหมายดังกล่าวอย่างท่วมท้น ขณะที่นางแนนซ๊ เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนฯ กล่าวว่า ชาวอเมริกันรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องการให้เงินโบนัสครั้งนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ชาร์ลส์ แรงเจล ประธานคณะกรรมการจากพรรคเดโมแครตจากนิวยอร์ก กล่าวว่า เราอยากให้กฎหมายนี้ครอบคลุมนอกเหนือไปจากเอไอจี เพื่อให้บริษัทเหล่านี้รู้ว่า ชาวอเมริกันไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
กฎหมายดังกล่าวถูกร่างขึ้นเมื่อวานนี้ ขณะที่เอ็ดเวิร์ด ลิดดี ซีอีโอของเอไอจี กล่าวกับคณะกรรมการชุดเล็กด้านบริการเงินของสภาผู้แทนฯว่า ตนเองได้ขอให้พนักงานที่ได้เงินโบนัสมากกว่า 1 แสนดอลลาร์รับเงินโบนัสแค่ครึ่งเดียว
ทั้งนี้ มาตรการทางภาษีนี้มีเป้าหมายที่จะนำมาใช้กับพนักงานที่มีรายได้โดยรวมเกิน 250,000 ดอลลาร์นับรวมเงินโบรัส และจะมีการจัดเก็บภาษีที่มีการจ่ายไปหลังวันที่ 31 ธ.ค. 2551 และหากบริษัทที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐต่ำกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ก็จะไม่มีการนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้