บีโอไอ เผยมี.ค.อนุมัติส่งเสริมลงทุน 51 โครงการ มูลค่ากว่า 2.1 หมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 19, 2009 14:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการ บีโอไอ ได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน ในเดือน มี.ค. ทั้งสิ้น 51 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 21,292 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้เป็นโครงการเดิมที่ขอขยายการลงทุน 38 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 15,900 ล้านบาท

โดยกิจการที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ประกอบการที่ยื่นขอขยายการลงทุนสูงสุด ได้แก่กลุ่มกิจการโลหะ และเครื่องจักร มูลค่าเงินลงทุน 5,386 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ กลุ่มกิจการบริการ และสาธารณูปโภค มูลค่าเงินลงทุน 4,053 ล้านบาท กิจการการเกษตร และผลิตผลจากการเกษตร มูลค่า 3,270 ล้านบาท และกิจการอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า 2,389.9 ล้านบาท เป็นต้น

สำหรับการขยายลงทุนของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ คือ บริษัท เอ็นเอชเค สปริง (ประเทศไทย) จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น ขยายการลงทุนผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่จับยึดหัวอ่าน (SLIDER) ใน ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ ซึ่งถือเป็นโครงการขยายการลงทุนครั้งที่ 5 มีกำลังการผลิต 88.128 ล้านชิ้น/ปี มูลค่าเงินลงทุน 1,351.4 ล้านบาท

ส่วนการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท โตชิบา คอนซูมเมอร์ โปรดัคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ขยายกิจการผลิตเครื่องซักผ้า มูลค่าเงินลงทุน 328.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขยายกำลังผลิตเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ 700,000 เครื่อง/ปี โดยได้ย้ายฐานการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อลดต้นทุนการผลิต ตามแผนดำเนินการจะมีการใช้วัตถุดิบในประเทศ

บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ได้รับการส่งเสริมขยายกิจการผลิตอาหารสุนัขและแมว มูลค่าเงินลงทุน 944 ล้านบาท การลงทุนครั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะผลิตอาหารสุนัขและแมวด้วยตัวเอง และจะเป็นฐานการผลิตอาหารสุนัข และแมวให้กับตลาดภายในประเทศ และเป็นฐานการส่งออกให้กับบริษัทในเครือในภูมิภาคเอเชียต่อไป

บริษัทเอ็น บี แอพพาเรล จำกัด ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแก่ในการตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ประมาณ 7.6 ล้านชิ้น/ปี ภายใต้แบรนด์การค้าจากต่างประเทศ เน้นการใช้วัตถุดิบในประเทศ และจะก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทยเ พิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2,025 คน

บริษัท ไทยออยล์เพาเวอร์ จำกัด ขยายกิจการพลังงานไอน้ำ มูลค่าเงินลงทุน 300 ล้านบาท เป็นการนำก๊าชที่เหลือจากกระบวนการผลิตไฟฟ้า และไอน้ำ เพื่อผลิตไอน้ำความดันต่ำจำหน่ายให้กับบริษัท และบริษัท ปตท.จำหน่ายก๊าชธรรมชาติ จำกัด ขยายกิจการ ขนส่งทางท่อ มูลค่าเงินลงทุน 290 ล้านบาท เพื่อวางท่อขนส่งก๊าชธรรมชาติ ขนาด 12 นิ้ว เชื่อมจากท่อก๊าช ปตท.สายประธานเส้นที่ 3 เพื่อป้อนก๊าชธรรมชาติประมาณ 11,750 ล้านลูกบาศก์ฟุต/ปี ให้กับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด และลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด

"สถานการณ์การลงทุนในช่วงต้นปีนี้ พบว่ากิจการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักลงทุนรายเดิม ที่ขยายการลงทุน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องในไทย" นางหิรัญญา กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ