กลุ่มผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) มีแนวโน้มว่าจะไม่สนับสนุนให้มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจในช่วงการประชุม G-20 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในภาวะถดถอยก็ตาม และจะยังคงสนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 แสนล้านยูโร หรือ 5.25 แสนล้านดอลลาร์ตามที่ได้มีการวางแผนไว้ ขณะเดียวกันก็จะต่อรองเกี่ยวกับโครงการสาธารณูปโภคที่คาดว่าจะใช้งบประมาณ 5 พันล้านยูโร
บลูมเบิร์กรายงานว่า นิค คูนิส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของฟอร์ติส แบงค์ กล่าวว่า มาตรการทางการเงินเพิ่มเติมดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางยุโรป มีไม่กี่ประเทศที่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้
ก่อนที่การประชุมสุดยอด G-20 จะเปิดฉากขึ้นในสองสัปดาห์ข้างหน้า ผู้นำยุโรปซึ่งรวมถึง นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์จากนักเศรษฐศาสตร์บางรายถึงเรื่องที่ประเทศของพวกเขาได้ประเมินสภาพเศรษฐกิจต่ำเกินไป จนทำให้เศรษฐกิจหดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีได้เปิดเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ร่วงลงเป็นประวัติการณ์ในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราว่างงานในอังกฤษพุ่งสูงขึ้นในระดับที่รวดเร็วที่สุดเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนฝรั่งเศสก็เผชิญกับการประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศในวันนี้ เพราะสหภาพพนักงานไม่พอใจกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ