สหรัฐเผยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเกินคาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องกลับพุ่งทำระดับสูงสุดระดับใหม่เป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ในขณะเดียวกันมีนักเศรษฐศาสตร์เพียงไม่กี่คนที่เชื่อว่าตลาดแรงงานสหรัฐจะฟื้นตัวในเร็ววันนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลดลงเหลือ 646,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา จาก 658,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งถือว่าดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้มาก
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องกลับทะยานกว่า 185,000 ราย สู่ระดับ 5.47 ล้านราย ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.33 ล้านราย และถือเป็นการทำระดับสูงสุดระดับใหม่เป็นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกันแล้ว
สำหรับค่าเฉลี่ยตลอด 4 สัปดาห์ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นแตะ 654,750 ราย ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2525 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเพิ่งฟื้นตัวจากการถดถอยอย่างหนัก
"ตอนนี้ไม่มีสัญญาณบ่งชี้แม้แต่นิดเดียวว่าตลาดแรงงานจะกระเตื้องขึ้นบ้าง" เอียน เชปเพิร์ดสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก High Frequency Economics กล่าว
นอกจากนั้นนายเชปเพิร์ดสันยังเชื่อว่าอัตราว่างงานอาจพุ่งสูงกว่า 700,000 รายในเดือนมี.ค. ซึ่งจะส่งผลให้อัตราว่างงานพุ่งเหนือระดับ 5 ล้านราย
เมื่อพิจารณาเป็นรัฐ อินเดียน่าเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานมากสุดในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 มี.ค.โดยเพิ่มขึ้นถึง 5,500 ราย หลังเกิดการปลดพนักงานในอุตสาหกรรมยานยนต์และการผลิต รองลงมาคือเพนซิลเวเนีย, เท็กซัส, ฟลอริด้า และ มิชิแกน
ส่วนนิวยอร์กมีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากที่สุดถึง 11,218 ราย เนื่องจากภาคการบริการและการคมนาคมขนส่งปลดพนักงานน้อยลง ตามมาด้วยคอนเน็กติกัต, เทนเนสซี, แคลิฟอร์เนีย และ โอเรกอน สำนักข่าวเอพีรายงาน