นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐจะร่วงลง 0.9% แตะระดับ 4.45 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเริ่มรวบรวมข้อมูลในปีพ.ศ.2543
อดัม ยอร์ค นักวิเคราะห์จากวาโชเวีย คอร์ป กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินทุ่มงบประมาณ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อช่วยคลี่คลายวิกฤตการณ์ด้านสินเชื่อ ซึ่งครอบคลุมถึงการข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และเพิ่มการรับซื้อตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) อีก 7.50 แสนล้านดอลลาร์
"ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อส่งผลให้สถาบันการเงินขาดทุนอย่างหนัก และทำให้จำนวนบ้านที่ถูกยึดเพิ่มขึ้นด้วย สถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.พ.ทรุดตัวลงอีก วิกฤตการณ์เศรษฐกิจทำให้เฟดพยายามทำทุกอย่างเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ รวมถึงการลดดอกเบี้ย จริงอยู่ที่การลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง แต่หากไม่มีการปล่อยกู้ ลดดอกเบี้ยไปก็เปล่าประโยชน์" ยอร์คกล่าว
สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.พ.ในคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย)
ส่วนยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนม.ค.ร่วงลง 5.3% เหลือเพียง 4.49 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 12 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1% ขณะที่ราคาบ้านโดยเฉลี่ยลดลง 14.8% เหลือเพียง 170,300 ดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน