ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาประเทศไทย เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับแผนกระตุ้นการปล่อยกู้ในภาคการเงินและมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับการแสดงความคิดเห็นของนายมาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุนชื่อดังและประธานบริษัท เทมเพลตัน แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ ที่เชื่อว่า ภาวะกระทิงรอบใหม่ของตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มขึ้นแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 13.30 น.ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าเดือนมิ.ย.เคลื่อนไหวอยู่ที่ 7340 จุด พุ่งขึ้น 125 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าดีดตัวขึ้น 1.9% ส่วนดัชนี MSCI Asia Pacific Index ดีดขึ้น 3.8 จุด แตะที่ 82.54 จุด
โมเบียส วัย 72 ปีมองว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังอยู่ในระยะปรับฐานขึ้นเพื่อผงาดสู่ภาวะกระทิงรอบใหม่ ขณะที่บริษัท เทมเพลตันกำลังรุกซื้อหุ้นในตลาดเกิดใหม่ทุกแห่ง ซึ่งมีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจมากกว่าตลาดหุ้นในกลุ่มชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
"ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะกระทิงรอบใหม่ บริษัทเทมเพลตันกำลังรุกซื้อหุ้นในบริษัทที่มีสภาพคล่องหนาแน่น หนี้สินต่ำ มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูง และให้ความสนใจในบริษัทที่มีศักยภาพที่จะขยายตัวได้ดีในอนาคต" โมเบียส วัย 72 ปีกล่าว
ดัชนี MSCI Emerging Markets Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดตลาดหุ้นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ พุ่งขึ้น 23% นับตั้งแต่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ปีที่แล้ว เทียบกับดัชนี MSCI World Index ที่ร่วงลง 2.5% และดัชนี S&P 500 ที่อ่อนตัวลง 9.5%
นักลงทุนจับตาดูนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ ที่เตรียมประกาศแผนการที่จะให้ภาครัฐและเอกชนของสหรัฐจะร่วมมือกันในการขจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากภาคธนาคาร ซึ่งเป็นต้นตอของวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง โดยแถลงการณ์ดังกล่าวจะมีขึ้นในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย
นอกจากนี้ คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐจะดำเนินการปรับปรุงกฎระเบียบข้อบังคับด้านการกำกับดูแลตลาดการเงิน โดยมีเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงมิให้เกิดวิกฤตการเงินขึ้นซ้ำรอยจนสร้างความเสียหายต่อระบบธนาคารและกดดันให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2525