นายกฯ สั่งทบทวนแผน ICT ปี 52-56 หวังช่วยหนุนงานรัฐบาล-อุตสาหกรรมในปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 23, 2009 15:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ทบทวนร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฉบับที่ 2(52-56)

แผนดังกล่าวปรับปรุงครั้งสุดท้ายสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเน้นการพัฒนากำลังคนให้ไอซีทีเป็นธรรมาภิบาล, สนับสนุนการบริหารงานของรัฐบาล, พัฒนาขีดความสามารถของไอซีที และพัฒนาไอซีทีอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะกรรการนโยบายไอซีที เห็นว่าเพื่อเป็นการพัฒนาระบบซอฟท์แวร์และส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศในภาพรวม จึงเห็นควรให้มีการปรับแก้รายละเอียดและโครงการต่างๆ ให้มีความเป็นรูปธรรม เช่น การเขียนแผนโครงสร้างไอซีทีระดับประเทศให้หลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อนำมาขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เช่น ด้านพลังงานทดแทน โดยมีกรอบประเมินผลใน 1-2 ปี

พร้อมกันนี้ได้ขอให้ปรับฐานข้อมูลในทุกระดับ เช่น ฐานข้อมูลการจัดสรรเบี้ยยังชีพในนโยบายต่างๆ และฐานข้อมูลผู้ได้รับเงิน 2,000 บาท ขณะที่ได้ให้ความสำคัญกับแนวทางการปรับโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีเข้าสู่ส่วนท้องถิ่นให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการกระจุกตัวในส่วนกลางมากนัก เนื่องจากในอนาคตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบเครือข่ายในท้องถิ่น รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาของทั้ง กทช.หรือการจัดตั้ง กสช.เป็นต้น

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาการลงทุนด้านไอซีทีของภาครัฐ โดยเฉพาะบุคลากรผู้ใช้ระบบและการเข้าถึงการเปิดเครือข่ายไอซีทีของภาครัฐ

"นายกรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน แผนแม่บทฉบับใหม่จะต้องนึงถึงวิกฤติเศรษฐกิจและต้องปรับวิกฤตให้เป็นโอกาส เช่น การส่งเสริมการลงทุนหรือปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีไอซีทีให้กับภาครัฐและเอกชน โดยหาช่องทางเพื่อจูงใจการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ นอกจากนี้ยังเห็นว่าการจัดตั้งสภาไอซีที และมหาวิทยาลัยไอซีที องค์กรเหล่านี้จะต้องสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและกรอบแนวคิดได้จริง" นายพุทธิพงษ์ กล่าว

นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รมว.ไอซีที เป็นเจ้าภาพในการบังคับใช้กฎหมายกับเว็บไซต์ปกตินอกเหนือจากเว็บไซต์ที่จงใจหมิ่นสถาบันฯ ที่เผยแพร่บทความหรือข้อความที่ไม่เหมาะสม นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงยุติธรรมที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายเดิมแล้ว โดยเฉพาะกรณีการโพสต์ข้อความที่ไม่ได้ระบุวันเวลาที่จะลบออก รวมทั้งขอให้จับตากลุ่มที่กระทำความผิด เช่น การ hack ข้อมูลทางการเงิน ตลอดจนผู้พัฒนาซอฟแวร์หรือเกมส์ที่อาจดำเนินการส่อไปในทางที่ผิดกฎหมายว่าจะสามารถควบคุมได้อย่างไร ซึ่งต้องมีทั้งวิธีการในเชิงสร้างสรรค์และการป้องปราม



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ