ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเขตยูโรโซนร่วงลงกว่า 3.5% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 2533
ในขณะเดียวกัน ยูโรสแตท (Eurostat) รายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ปีที่แล้ว ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเขตยูโรโซนร่วงลงถึง 17.3%
โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวลงอย่างมากเนื่องจากโรงงานหลายแห่งต่างลดกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับอุปสงค์ที่ลดลง อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาทั่วโลก
"ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.ย่ำแย่อย่างน่าใจหาย และเป็นหลักฐานบ่งชี้อย่างชัดเจนว่ากิจกรรมการผลิตกำลังดิ่งลงอย่างหนัก" โฮเวิร์ด อาร์เชอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท โกลบอล อินไซท์ กล่าว
"ผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมคงเผชิญภาวะยากลำบากต่อไปอีกหลายเดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากทั้งอุปสงค์ในประเทศที่ลดลงและตลาดส่งออกที่ซบเซา" เขากล่าว
"ตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนม.ค.แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยุโรปจะหดตัวอย่างหนักไปตลอดไตรมาสแรก" เบน เมย์ จากบริษัทแคปิตอล อีโคโนมิกส์ กล่าว
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่าตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมที่ย่ำแย่จะกดดันให้ธนาคารกลางยุโรปต้องลดดอกเบี้ยลงจากระดับ 2% ในปัจจุบัน