โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป บริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถทั่วโลกของบริษัทร่วงลงต่ำที่สุดในรอบเกือบ 23 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงส่งผลกระทบต่อความต้องการรถในอเมริกาเหนือและยุโรป โดยผลผลิตรถของบริษัทในเดือนก.พ.ดิ่งลงถึง 53% เหลือ 358,573 คัน เมื่อเทียบกับสถิติปีที่แล้ว นับเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่บริษัทได้เริ่มเผยแพร่
ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น เผยยอดผลผลิตรถที่ 190,680 คัน ร่วงลง 43% ขณะที่ยอดขายของนิสสัน มอเตอร์ บริษัทรถอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ร่วง 51%
บลูมเบิร์กรายงานว่า โตโยต้าและบริษัทผู้ผลิตรถรายอื่นๆของญี่ปุ่นได้ลดการผลิตรถลงมากขึ้น เพื่อลดจำนวนรถคงค้างของดีลเลอร์ โดยยอดขายรถในสหรัฐเมื่อเดือนก.พ.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2523 หลังจากที่อัตราว่างงานสูงขึ้นและสินเชื่อที่ตึงตัวส่งผลกระทบต่อความต้องการในการซื้อรถ
ฮิโตชิ ยามาโมโตะ ซีอีโอฟอร์ติส แอสเสท เมเนจเมนท์ เจแปน กล่าวว่า สินเชื่อที่อยู่ในสภาพที่ตึงตัวขึ้นนั้นกำลังกัดกร่อนดีมานด์รถในสหรัฐ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ช่วยเหลือบริษัทรถของญี่ปุ่น
เมื่อเดือนที่แล้ว ยอดขายรถและรถบรรทุกขนาดเล็กในสหรัฐอยู่ที่ 9.12 ล้านคันต่อปี ลดลงไปจากระดับปีที่แล้วที่ 15.4 ล้านคัน โดยยอดขายของโตโยต้าร่วงลง 40% ฮอนด้า ร่วง 38% ยอดขายของนิสสันร่วง 37% ขณะที่บริษัทรถของสหรัฐอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป บริษัทรถรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มียอดขายที่ร่วงลง 53% ส่วนยอดขายของฟอร์ด มอเตอร์ ตกลง 48%
โตโยต้า ซึ่งคาดว่าจะขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 59 ปี ได้ลดการผลิตรถในประเทศลง 64% เมื่อเดือนที่แล้ว และได้ผลิตรถนอกประเทศญี่ปุ่น 217,446 คัน ลดลงไป 42% ขณะที่ยอดส่งออกดิ่งลง 69%