กองทุนเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ กำลังทบทวนแผนการลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เนื่องจากราคาโลหะที่ร่วงลงส่งผลให้บริษัทเหมืองหลายแห่งเร่งควบรวมกิจการ โดยการประกาศทบทวนแผนการลงทุนของเทมาเส็กมีขึ้นหลังจากเทมาเส็กตัดสินใจว่าจ้างอดีตซีอีโอของบริษัท บีเอชพี บิลลิตัน มาร่วมงาน
นากี ฮามิเยห์ กรรมการผู้จัดการด้านการลงทุนของเทมาเส็กเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "เรายังมีโอกาส อุตสาหกรรมเหมืองแร่ยังมีลู่ทางที่ดีและได้รับประโยชน์โดยตรงจากภาวะขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เราจะประเมินแนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เนื่องจากราคาโลหะที่ร่วงลงส่งผลให้บริษัทเหมืองหลายแห่งเร่งควบรวมกิจการ"
"มีบริษัทเหมืองมากมายได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะขาดแคลนสภาพคล่อง ซึ่งทำให้บริษัทต้องควบรวมกิจการกันจึงจะอยู่รอดได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นผลพวงมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ทำให้บริษัทเหมืองแร่วางแผนลดการใช้จ่ายในอีก 3 ปีข้างหน้าลงเหลือเพียง 1 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิม 2.50 แสนล้านดอลลาร์" เฮมิเยห์กล่าว
นอกจากนี้ เฮมิเยห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของจีนและสหรัฐจะเป็นสองประเทศแรกที่ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะชะลอตัว
การที่เทมาเส็กต้องทบทวนการลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่มีขึ้นหลังจากพอร์ทการลงทุนของเราหดตัวลง 31% เหลือเพียง 1.27 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (8.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทหลายแห่งร่วงลงด้วย รวมถึงธนาคารบาร์เคลย์ส และเมอร์ริล ลินช์
ด้านนายฟาบิโอ บาร์โบซา ซีอีโอของบริษัท CVRD ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่ของบราซิลกล่าวว่า "กองทุนเทมาเส็กจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เนื่องจากมีความพร้อมหลายด้าน และ CVRD ก็จะโน้มน้าวเทมาเส็กให้เข้าลงทุนในธุรกิจของเราด้วย"
ทั้งนี้ การลงทุนด้านพลังงานและเหมืองแร่คิดเป็นสัดส่วน 5% ในพอร์ทการลงทุนโดยรวมของเทมาเส็กในรอบปีซึ่งสิ้นสุด ณ เดือน 2551 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน