คลังหวังการเมืองนิ่งช่วยกู้เครดิตไทยจาก Negativeเป็น Stable Outlook

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 24, 2009 17:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า วันนี้ได้หารือกับตัวแทนจากบริษัทจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้ง เพื่อให้ข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ โดยฟิทช์ให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ซึ่งเห็นว่ามีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว เพียงแต่ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปว่าจะมีเหตุการณ์ความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกหรือไม่

ทั้งนี้เห็นว่า หลังจากที่มีเหตุการณ์ปิดสนามจากปัญหาการเมืองในประเทศ ทำให้สถาบันจัดอันดับเครดิตเรทติ้งทุกแห่งปรับลดเครดิตประเทศไทยเป็นประเทศที่ถูกจับตามอง(Watch List) ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้เครดิตของไทยกลับมาเป็นระดับ Stable Outlook แม้ขณะนี้ระดับเครดิตของไทยจะเป็น BBB+ แต่ยังเป็น Negative อยู่

ผู้อำนวยการ สบน.กล่าวว่า การปรับเครดิตเรทติ้งของสถาบันจัดเครดิตต่างประเทศจะใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ก่อนจะมีการทบทวนเครดิตเรทติ้งอีกครั้ง ซึ่งหวังว่า จากการที่สถานการณ์การเมืองของไทยขณะนี้เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว เชื่อว่าช่วงกลางปีนี้น่าจะมีการทบทวนเครดิตให้ไทยกลับคืนมาได้

"ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ที่การเมืองว่าจะมีผลต่อเครดิตเรทติ้งของเราให้กลับคืนมาหรือไม่ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่เราอิงจากเศรษฐกิจโลกอยู่แล้ว ซึ่งได้รับผลกระทบทั่วโลก ดังนั้นตอนนี้ต่างประเทศก็มองว่าการเมืองจะมีความขัดแย้งรุนแรงอีกหรือไม่..ส่วนการที่ก่อนหน้านี้มูดี้ส์มองเศรษฐกิจไทยแย่ เป็นเพียงการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์บางคนเท่านั้น ขณะที่ Agency Credit Ratiing กลับมองเครดิตไทยดีขึ้นมากแล้ว เพียงแต่เราจะให้ออกจากเรทติ้ง Negative ให้ได้" นายพงษ์ภาณุ กล่าว

นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า การที่เครดิตเรทติ้งของไทยเป็น Negative ยังไม่กระทบต่อการกู้เงินต่างประเทศของไทย เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีแผนกู้เงินในตลาดต่างประเทศ แต่มีแผนจะกู้เงินจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ เช่น ธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเซีย แต่หากมีการกู้เงินในตลาดต่างประเทศยอมรับว่า ต้องกระทบต่อต้นทุนการกู้เงินให้สูงขึ้นแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ