"โอบามา"โต้จีนกดดันใช้สกุลเงินอื่นแทนดอลลาร์ ยันเงินดอลล์ยังแข็งค่า-นลท.มั่นใจสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday March 25, 2009 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ระบุว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าเนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจว่าสหรัฐยังสามารถเป็นผู้นำการพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลก พร้อมกับปฏิเสธข้อเรียกร้องของจีนที่ต้องการให้นานาชาติใช้เงินสกุลอื่นเป็นค่ามาตรฐานในระบบสำรองเงินตราแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ

การแสดงความคิดเห็นของโอบามามีขึ้นหลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเรียกร้องให้มีการใช้เงินสกุลอื่นเป็นค่ามาตรฐานในระบบสำรองเงินตราแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ พร้อมเสนอให้ยกเครื่องระบบการเงินโลกที่ไร้การครอบงำจากสหรัฐ และแนะนำกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้นำเงินสกุล SDR มาใช้ในระบบสำรองเงินตราระหว่างประเทศอีกครั้ง โดยนายโจวออกแถลงการณ์ดังกล่าวในระหว่างเตรียมเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมและกำลังพัฒนา หรือ G20 ซึ่งจะจัดขึ้นในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษในสัปดาห์หน้า

"นักลงทุนมั่นใจในศักยภาพของสหรัฐ แม้ว่าเรากำลังเผชิญอุปสรรคขวากหนาม แต่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังแข็งแกร่งมาก ส่วนการที่จีนออกมาเรียกร้องให้จัดตั้ง 'super currency' หรือสกุลเงินใหม่แทนที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในระบบสำรองเงินตราต่างประเทศนั้น ผมคิดว่ายังไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องทำเช่นนั้น" โอบามากล่าว

นักเศรษฐศาสตร์มองว่า การที่จีนเรียกร้องให้นานาชาติใช้เงินสกุลอื่นเป็นค่ามาตรฐานในระบบสำรองเงินตราแทนที่ดอลลาร์สหรัฐนั้น อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนรู้สึกกังวลต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และต้องการผลักดันให้สกุลเงินหยวนมีบทบาทเป็นแกนนำ ในการประชุมสุดยอด G20 สัปดาห์หน้านี้

ความเคลื่อนไหวของนายโจวมีขึ้นหลังจากที่จีนเรียกร้องให้สหรัฐรับประกันความปลอดภัยของสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ที่จีนถือครองอยู่ โดยเมื่อปี 2551 จีนถือครองพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 46% ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่า 7.40 แสนล้านดอลลาร์ และได้ชื่อว่าเป็นประเทศหลักที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแอลงนับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศใช้งบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกำจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากงบดุลบัญชีของธนาคารพาณิชย์ ภายใต้ชื่อ "โครงการลงทุนภาครัฐ-เอกชน" (Public-Private Investment Programme)

การประชุมสุดยอด G20 จะมีขึ้นในวันที่ 2 เม.ย.ที่กรุงลอนดอน เพื่อหาแนวทางรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินโลกที่ฉุดเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และจะมีการหารือเรื่องข้อเสนอให้มีการยกเครื่อง IMF สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ