นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) คาดว่า สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีภายในสิ้นปีนี้จะปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 43-45% ของจีดีพี ซึ่งสูงกว่าเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 42% ของจีดีพี
การประเมินดังกล่าวหลังจากรัฐบาลมีแผนกู้เงินในปีงบประมาณ 2552 ในส่วนของการกู้เงินในประเทศ 7 แสนล้านบาท และกู้เงินจากต่างประเทศอีก 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการประเมินภายใต้พื้นฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่ที่ระดับ 0% แต่หากจีดีพีขยายตัวติดลบจะส่งผลให้สัดส่วนของหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นอีก
และ การคาดการณ์สัดส่วนหนี้สาธารณะดังกล่าวยังไม่รวมกับยอดเงินที่รัฐบาลจะนำออกมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสามอีก 1.4 ล้านล้านบาท
สำหรับยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ม.ค.52 อยู่ที่ 3.54 ล้านล้านบาท คิดเป็น 39.31% ของจีดีพี โดยเพิ่มขึ้น 71,514 ล้านบาท จากเดือน ธ.ค.51 หรือเพิ่มขึ้น 1.2% ของจีดีพี เนื่องจากการก่อหนี้ภาครัฐเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันมีการปรับลดคาดการณ์จีดีพีในปีนี้ลงจากเดิม