อดีต รมว.พาณิชย์ แนะรัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยในเวทีโลก เพื่อให้การแก้ไขปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ผล เพราะต้องยอมรับความจริงว่าการส่งออกในปีนี้หดตัวลงอย่างแน่นอนเหตุเศรษฐกิจโลกชะลอตัวรุนแรง
"สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำคือการแสดงจุดยืนบนเวทีการค้าโลก ทั้งเวทีองค์การการค้าโลก(ดับบลิวทีโอ) และเวทีระดับภูมิภาค เช่น อาเซียน เพราะเศรษฐกิจโลกที่เป็นปัญหาขณะนี้จำเป็นที่ทั่วโลกต้องให้ความเชื่อมั่น แม้ว่าทุกประเทศจะทุ่มเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหา แต่หากไม่มีความมั่นใจ ทุกคนเก็บเงินสด ไม่นำเงินออกมาใช้ การแก้ไขปัญหาก็ไม่เกิดประโยชน์" นายเกริกไกร จีระแพทย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวในงานสัมมนาเวทีสาธารณะ"เปิดเสรีการค้าโลก ภายใต้กฎเกณฑ์ WTO"
อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกในปีนี้มีโอกาสที่จะขยายตัวติดลบ ดังนั้นการตั้งเป้าส่งออกขยายตัว 0-3% ของกระทรวงพาณิชย์เป็นเพียงเป้าหมายทางจิตวิทยาที่ต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย แต่ความเป็นจริงคือวิกฤตเศรษฐกิจโลกรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก มาตรการกระตุ้นการส่งออกปีนี้ทำได้เพียงการประคองตัวเท่านั้น
"ปีนี้ต้องยอมรับความจริง ระมัดระวัง และเอาตัวให้รอด อย่าไปหัวชนฝา การส่งออกไปตลาดเก่าที่ยังเก็บลูกค้าชั้นดีไว้ได้ ก็ควรทำ และประคองตัวด้วยการเจาะตลาดใหม่เพิ่ม ส่วนตัวเลขส่งออกจะขยายตัวติดลบขนาดไหน ต้องรอตัวเลขถึงเดือนมิถุนายนก่อน หากติดลบ 2 หลัก มีโอกาสที่ตัวเลขทั้งปีจะเป็นเช่นนั้น โดยตัวเลขส่งออกที่ควรนำมาคิด คือต้องตัดการส่งออกทองคำออกไปแล้ว" นายเกริกไกร กล่าว
อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยไม่ควรกังวลว่าการเปิดเสรีรอบโดฮาจะได้ข้อสรุปหรือไม่ หากได้ข้อสรุปเร็วในปีนี้ก็ดี แต่หากไม่จบดับบลิวทีโอก็ยังได้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะการเปิดตลาดสินค้ารอบโดฮาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของดับบลิวทีโอเท่านั้น อีกทั้งมีการลดภาษีน้อยเกินไป ไม่สามารถช่วยแก้วิกฤตเศรษฐกิจได้ทั้งหมด แต่ควรใช้เวทีดับบลิวทีโอเจรจาประเด็นอื่นๆ เพื่อให้ครอบคลุมกับวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะด้านความมั่งคงอาหาร พลังงาน อัตราแลกเปลี่ยน สิ่งแวดล้อม การกีดกันทางการค้า การอุดหนุนการค้า และกฎเกณฑ์ทางด้านการเงินที่ควรหยิบยกมาเป็นประเด็นเพิ่มเติม