ตลาดพลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในยุโรปมีแนวโน้มหดตัวลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่บริษัทเอ็นรอน คอร์ป ประสบภาวะล้มละลายในปี 2544 ท่ามกลางบรรยากาศการค้าด้านพลังงานที่ซบเซาลง ซึ่งภาวะเช่นนี้ได้ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาพลังงานที่สูงเกินจริงในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ล้มละลายในเดือนก.ย. บริษัท E.ON AG ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ก็มีหุ้นส่วนทางการค้าเป็นธนาคารรายใหญ่เพียงรายเดียว ซึ่งลดลงจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ขณะที่ยูบีเอส เอจี วางมือจากอุตสาหกรรมด้านสินค้าโภคภันฑ์ ซึ่งไม่รวมถึงสินค้าในกลุ่มโลหะมีค่าในเดือนต.ค. เพื่อหวังที่จะปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ส่วนบริษัท Vattenfall AB ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวียมีธนาคารที่เป็นหุ้นส่วนทางการค้าลดลงจาก 6 รายเหลือ 3 ราย
ไค ซีลา หัวหน้าฝ่ายพลังงานของบริษัท Vattenfal กล่าวว่า การค้าด้านพลังงานในเยอรมนีอาจซบเซาลง 17% ในปีนี้จากที่เคยคึกคักมากเป็นประวัติการณ์ในปี 2551 ซึ่งการปรับตัวลดลงนี้จะลดอัตราการแข่งขันในกลุ่มผู้ให้บริการด้านพลังงาน ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้พลังงานจากบริษัทต่างๆอาจพลาดโอกาสรับข้อเสนอที่ดีที่สุดในยามที่ราคาพลังงานลดลง 46% จากระดับสูงสุดในเดือนก.ค.
"การแข่งขันจะทำให้ซัพพลายเออร์ด้านพลังงานมีโอกาสในการกำหนดราคาที่สูงขึ้นได้" แอนเนตต์ ลอสกี้ ที่ปรึกษาจากบริษัท Verband der Industriellen Energie und Kraftwirtschaf ในเยอรมนีกล่าว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ซบเซามีผลต่อบรรยากาศทางการค้าด้านพลังงาน โดยผลผลิตอุตสาหกรรมยุโรปลดลง 17% ในเดือนม.ค. และธนาคารกลางยุโรปคาดว่าเศรษฐกิจในยุโรปจะหดตัวลง 2.7% ในปีนี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนักสุดนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2