นายกฯ เชื่อศก.ไม่ไหลลงไปต่อ-ฟื้นเป็นบวก Q4/52 แต่รับทั้งปีพ้นติดลบยาก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 26, 2009 12:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยจะไม่ไหลลงไปเรื่อย ๆ และจะสามารถฟื้นตัวกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ในไตรมาส 4/52 จากที่ติดลบต่อเนื่องจากปลายปีก่อน แต่ก็ยอมรับว่าเป็นไปได้ยากมากที่จะทำให้เศรษฐกิจทั้งปีขยายตัวเป็นบวก เพราะภาวะขณะนี้แย่กว่าที่คาดไว้เมื่อครั้งที่รัฐบาลเข้ามารับหน้าที่บริหารประเทศ โดยล่าสุดหน่วยงานด้านเศรษฐกิจคาดการณ์ว่ามีโอกาสติดลบมากถึง 3%

สถานการณ์ทางเศรษฐกิจปีนี้แย่กว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปจะเริ่มทยอยเห็นผลตั้งแต่ช่วง 3 เดือนนี้ ประกอบกับ หลายประเทศใหญ่ ๆ คงไม่ปล่อยให้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจลุกลามไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการออกมาตรการมาช่วยพยุงเศรษฐกิจแน่นอน ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อประเทศไทยด้วย

"เชื่อว่าเศรษฐกิจจะไม่ลบขนาดนั้น เพราะตอนนี้มาตรการกระตุ้นของทุกประเทศยังไม่ปฏิบัติจริง แต่ตั้งแต่ มี.ค.- เม.ย.- พ.ค. นี้มาตรการเราจะลงไปและมาตรการของอีกหลายประเทศเริ่มมีผล ผมยังไม่เชื่อว่าประเทศใหญ่จะปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อไปถึงไตรมาส 3-4 ผมไม่เชื่อว่าจะไหลลงไปเรื่อย ๆ...ผมเชื่อว่าไตรมาสสุดท้ายเป็นบวก แต่จะทำให้ทั้งปีเป็นบวกยอมรับว่าทำได้ยากมาก"นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์เมื่อคืนนี้

มาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่จะมีผลกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงนี้ ได้แก่ เช็คช่วยชาติ, งบประมาณกลางปี 52, งบอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) , เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ, โครงการเรียนฟรี, โครงการชุมชนพอเพียง 8 พันหมู่บ้าน ซึ่งเม็ดเงินส่วนใหญ่จะออกตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมาอีกอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการหลักคือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ภายใต้โครงการลงทุน 3 ปี(53-55) จำนวน 1.56 ล้านล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายจะเริ่มใช้จ่ายเม็ดเงินงบประมาณให้ได้ทันทีที่บังคับใช้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2553 ในเดือนต.ค.นี้

สำหรับการกู้เงินมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจที่ทำให้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ถูกโจมตีในขณะนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีรัฐบาลชุดไหนไม่กู้ รัฐบาลพร้อมรับผลกระทบที่เกิดขึ้น เพราะการกู้เงินเป็นทางที่เหมาะสมที่สุดแล้วในขณะนี้ในการหาเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างในต่างประเทศเองก็เป็นที่รับรู้กันว่าไม่มีรัฐบาลประเทศใดที่กู้ไอเอ็มเอฟแล้วจะชนะการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็หวังว่าประชาชนจะได้เห็นผลดีจากสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการไป



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ