อดีตนักวิเคราะห์ IMF เชื่อสหรัฐโดดขวางจีนเสนอใช้สกุลเงิน SDR แทนดอลลาร์

ข่าวต่างประเทศ Thursday March 26, 2009 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายหัว เออเฉง อดีตนักเศรษฐศาสตร์ประจำกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ คอร์ป กล่าวแสดงความเห็นว่า ข้อเสนอของจีนที่ต้องการให้ใช้สกุลเงิน SDR ในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศแทนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น ต้องใช้เวลาหลายปีจึงจะสำเร็จเป็นรูปธรรม และคาดว่าสหรัฐจะลุกขึ้นขัดขวางแผนการดังกล่าว

"ผมไม่เชื่อว่าสหรัฐจะยอมแพ้จนถึงขั้นให้นำสกุลเงินอื่นมาแทนที่ดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลักของระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และการจะนำสกุลเงินอื่นมาแทนที่ดอลลาร์ได้จะต้องใช้เวลานานหลายปี ข้อเสนอของจีนในครั้งนี้เหมือนเป็นการส่งสัญญาณถึงสหรัฐว่า จีนไม่เชื่อถือในสกุลเงินดอลลาร์อีกต่อไป ซึ่งถือเป็นการตบหน้าสหรัฐอย่างรุนแรง" เออเฉงกล่าวกับผู้สื่อข่าวของบลูมเบิร์ก

การแสดงความคิดเห็นของนายเออเฉงมีขึ้นหลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเรียกร้องให้มีการใช้เงินสกุล SDR เป็นค่ามาตรฐานในระบบสำรองเงินตราแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ พร้อมเสนอให้ยกเครื่องระบบการเงินโลกที่ไร้การครอบงำจากสหรัฐ ขณะที่เว็บไซต์ IMF ระบุว่า สหรัฐพยายามขัดขวางไม่ให้มีการขยายการใช้ระบบสกุลเงิน SDR มาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว

มิทัล โกเตชา หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านปริวรรตเงินตราจากธนาคารคาลิยงในฮ่องกงกล่าวว่า "ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันมานี้สะท้อนให้เห็นว่าความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินหลักของระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ "กำลังจะจบสิ้นลง" และจีนมีเจตนาที่จะทำให้สกุลเงินดอลลาร์ตกเป็นเป้าการอภิปรายในที่ประชุม G20 วันที่ 2 เม.ย. เพื่อให้ที่ประชุมเบี่ยงประเด็นออกจากสกุลเงินที่ถูกระบุว่าอ่อนค่าเกินจริง"

"นอกจากนี้ จีนต้องการแสดงให้เห็นถึงสถานะที่แข็งแกร่งกว่าในที่ประชุม G20 เพราะในขณะนี้ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังวิตกกังวลต่อสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง" โกเตชากล่าว

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแอลงนับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ครอบคลุมถึงการข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และเพิ่มการรับซื้อตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) อีก 7.50 แสนล้านดอลลาร์

จากนั้นเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นเมื่อกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศใช้งบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกำจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากงบดุลบัญชีของธนาคารพาณิชย์ ภายใต้ชื่อ "โครงการลงทุนภาครัฐ-เอกชน" (Public-Private Investment Programme)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ