ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นในการเข้าลงทุนสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ายูโรจะอ่อนตัวลงเพราะธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากอังกฤษเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 1.11% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 98.660 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 97.580 เยน/ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1281 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1208 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.52% แตะระดับ 1.3511 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3582 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.74% แตะระดับ 1.4444 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4551 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.73% แตะระดับ 0.7022 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.6971 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนดพุ่งขึ้น 1.56% แตะระดับ 0.5746 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5658 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
โยเซฟ เทรวิซานี หัวหน้านักวิเคราะห์จาก FXSolutions กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนสกุลเงินดอลลาร์มากขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดพันธบัตร หลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ อาทิ เบสท์ บาย, คองอากรา ฟู๊ด และด็อกเตอร์ เพ็พเพอร์ สแนปเปิล กรุ๊ป รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
นักลงทุนคลายความกังวลหลังจากเกิดกรณีที่นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า เขา "เปิดกว้าง" ต่อข้อเสนอในการใช้สกุลเงิน SDR ในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของโลก ซึ่งต่อมาไกธ์เนอร์ได้ออกมาสกัดกั้นการร่วงลงของดอลลาร์ด้วยการให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า เขามั่นใจว่าดอลลาร์ยังคงเป็นสกุลเงินหลักในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของโลก และยืนยันว่าค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งเป็นผลดีต่อสหรัฐ
ส่วนค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันหลังจากนายโคจิ ฟูคายา นักยุทธศาสตร์การลงทุนด้านปริวรรตเงินตราจากดอยช์ แบงค์ เอจี กล่าวว่า "ค่าเงินยูโรมีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลง รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความเป็นไปได้ที่อีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย เราคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เงินยูโรอ่อนตัวลงในระยะยาว"
ขณะที่ค่าเงินปอนด์ได้รับปัจจัยลบจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ ที่ออกมาระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ. ร่วงลง 1.9% จากเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2551 หลังจากที่อัตราว่างงานปรับตัวสูงขึ้นและเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันจากการที่สถาบัน Ifo ของเยอรมนีระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจประจำเดือนมี.ค.ร่วงลงแตะ 82.1 จุด จากระดับ 82.6 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2525