กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องปรับตัวสูงขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงซบเซาแม้จะมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจถดถอยลงถึงจุดต่ำสุดและพร้อมดีดตัวขึ้นแล้ว
ในขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่ก็ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 652,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จาก 644,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่งผลให้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานทั้งหมดพุ่งแตะ 5.56 ล้านราย มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะมีเพียง 5.48 ล้านราย นอกจากนั้นยังเป็นการทำระดับสูงสุดระดับใหม่ครั้งที่ 9 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลเมื่อ 42 ปีที่แล้วด้วย
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ที่ชาวอเมริกันต้องเผชิญมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ โดยกระทรวงพาณิชย์เผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงถึง 6.3% ในปี 2551 ซึ่งย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่า 25 ปี
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวเพียง 5-6% ในไตรมาสปัจจุบัน ถึงกระนั้นตัวเลขดังกล่าวก็ยังถือว่าย่ำแย่เมื่อเทียบกับมาตรฐานในอดีต แค่ดีกว่าตัวเลขของปีที่แล้วเล็กน้อยเท่านั้น
ด้านตลาดหุ้นดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากรายงานดังกล่าวเท่าใดนัก เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปรับตัวสูงขึ้น 70 จุดในการซื้อขายช่วงเช้า ในขณะที่ดัชนีอื่นๆก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันต่างลดการบริโภคลงหลังจากที่อัตราว่างงานพุ่งสูง ราคาบ้านร่วง และการลงทุนของภาคเอกชนลดลง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวก็กดดันให้ภาคเอกชนต้องลดการผลิตและปลดพนักงานจำนวนมาก กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่ทำให้เศรษฐกิจยิ่งถดถอยลงไปเรื่อยๆ สำนักข่าวเอพีรายงาน