สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์เปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 0.9% ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 16 ปี เนื่องจากการทรุดตัวลงของอุตสาหกรรมสร้างบ้านและยอดส่งออก อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากการที่ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม จีดีพีไตรมาส 4 ของนิวซีแลนด์หดตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า จะหดตัวลงรุนแรงถึง 1.1%
แอนเน็ต เบเชอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก TD Securities ในซิดนีย์กล่าวว่า เศรษฐกิจนิวซีแลนด์มีแนวโน้มถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 30 ปี เนื่องจากยอดส่งออกและตลาดอสังหาริมทรัพย์หดตัวลง โดยในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์เตือนว่า เศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจนกกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางอาจตรึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศ
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% สู่ระดับ 3.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดิมที่ 3.5% เพื่อยับยั้งเศรษฐกิจจากภาวะถดถอย
นายบอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์กล่าวว่า "เศรษฐกิจนิวซีแลนด์ถูกกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ซึ่งทำให้รายได้การส่งออกของเราหดตัวลง อีกทั้งยังบั่นทอนความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและการจ้างงาน ธนาคารกลางจึงมีมติลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน"
บอลลาร์ดคาดการณ์ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของนิวซีแลนด์จะยืดเยื้อไปจนถึงกลางปีนี้ ซึ่งถือเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดนับตั้งแต่นิวซีแลนด์ถูกกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันในช่วงทศวรรษที่ 1970 พร้อมกับเตือนว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลทั่วโลกในการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม บอลลาร์ดมองว่า ธนาคารกลางอาจจะไม่ลดดอกเบี้ยลงถึงระดับ 0% หรือใกล้กับ 0% เนื่องจากนิวซีแลนด์ยังคงเห็นความสำคัญของการกระตุ้นความสามารถด้านการแข่งขันในตลาดโลก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน