นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียล คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์อาจตัดสินใจลดค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ โดยจะปล่อยดอลลาร์สิงคโปร์ร่วงลง 4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐภายในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เพื่อพยุงภาคส่งออกและกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สิงคโปร์ได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปีพ.ศ.2508
แพทริก เบนเนตต์ นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ในฮ่องกงกล่าวว่า "ค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์แข็งเกินไปและอยู่ในระดับสูงกว่ามูลค่าตลาด ซึ่งสร้างความเสียหายต่อภาคส่งออก จึงอาจทำให้ธนาคารกลางตัดสินใจปล่อยให้สกุลเงินอ่อนค่าหลังจากยอดส่งออกทรุดตัวลง 10 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากดีมานด์สินค้าอิเล็กทรอนิกและเวชภัณฑ์ทรุดตัวลง"
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์จะหดตัวลง 5% ในปีนี้ เนื่องจากผู้ส่งออกของสิงคโปร์ขาดทุนอย่างหนักเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง หลังจากค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนตัวลง 6% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ด้านนายเหว่ย เฉิน คิท นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปในสิงคโปร์กล่าวว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นประสิทธิภาพการแข่งขันด้านการส่งออก และการปล่อยให้ค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนตัวลงถือเป็นแนวทางสำคัญที่จะทำให้ค่าเงินอ่อนตัวลงได้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปคาดว่าธนาคารกลางสิงคโปร์จะไม่ปล่อยให้ค่าเงินอ่อนตัวลงมากนักหลังจากตัดสินใจลดค่าเงินในครั้งนี้ เพราะไม่ต้องการให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน