สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของสัญญาน้ำมันดิบและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ท่ามกลางความวิตกกังวลเรื่องการล้มละลายของอุตสาหกรรมรถยนต์และภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อข้อมูลคาดการณ์ที่ว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 917.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 910.40-934.70 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 13.033 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 23.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงเดือนพ.ค.ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 1.7660 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,120.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 16.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 217.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 6.40 ดอลลาร์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จาก Kitco Bullion Dealers Montreal กล่าวว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX ได้รับแรงกดดันจากสัญญาน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกือบ 4 ดอลลาร์ หลังจากคณะทำงานเฉพาะกิจด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐมีมติคัดค้านแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และบริษัทไครสเลอร์ โดยคาดว่าบริษัทรถยนต์ทั้งสองแห่งอาจดำเนินกิจการต่อไปได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น
"นักลงทุนจำนวนมากนำเงินเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากดอลลาร์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ภายหลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย" เนดเลอร์กล่าว
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในทุกภูมิภาคตั้งแต่เอเชีย สหรัฐอเมริกา ไปจนถึงยุโรป ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจทำให้ดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์หดตัวลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูอัตราว่างงานเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 8.1%