ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐเข้าสู่ภาวะพลิกผัน หลังจากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจไม่ฟื้นฟูกิจการบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และไครสเลอร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.17% ที่ระดับ 1.3142 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3298 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ร่วงลง 0.98% แตะระดับ 1.4183 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4323 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.76% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1527 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.1440 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.74% เมื่อเทียบเงินเยนที่ 97.130 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 97.850 เยน/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 2.28% แตะระดับ 0.6777 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.6935 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.70% แตะระดับ 0.5600 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5697 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอสกล่าวว่า นักลงทุนจำนวนมากแห่ซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากมีรายงานว่าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐมีมติคัดค้านแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และบริษัทไครสเลอร์ และประเมินว่าบริษัทรถยนต์ทั้งสองแห่งอาจดำเนินกิจการต่อไปได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น
แรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐบีบให้นายริก วาโกเนอร์ ซีอีโอของจีเอ็มต้องยอมลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ของเอพีมองว่า การที่ทำเนียบขาวบีบให้ซีอีโอจีเอ็มสละเก้าอี้ถือเป็นการแสดงความเย็นชาต่อสหภาพอุตสาหกรรมรถยนต์ และส่งสัญญาณว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา มุ่งมั่นปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจอย่างเข้มข้น และยอมถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างไม่ยี่หระต่อเสียงวิพากษ์วิจารย์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังทุ่มซื้อดอลลาร์ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 8.1%
ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักหลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษที่หดตัวลง 1.6% จากระดับไตรมาส 3 ขณะที่ยอดการก่อสร้างภายในประเทศร่วงลง 4.9% และยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคอ่อนตัว 1%
นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูความเคลื่อนไหวของจีนที่พยายามทำข้อตกลงสว็อปค่าเงินกับนานาประเทศ รวมถึงมาเลเซีย เบลารุส และอินโดนีเซีย โดยล่าสุดเมื่อวานนี้จีนได้ลงนามในข้อตกลงทำสว็อปค่าเงินกับอาร์เจนตินา และความพยายามของจีนที่เรียกร้องให้นานาชาติใช้เงินสกุล SDR เป็นค่ามาตรฐานในระบบสำรองเงินตราแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ พร้อมเสนอให้ยกเครื่องระบบการเงินโลกที่ไร้การครอบงำจากสหรัฐ