ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีพ.ศ.2552 ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย หลังจากที่ยอดส่งออกทรุดตัวลง และเตือนว่าดีมานด์ที่หดตัวลงในสหรัฐและตลาดอื่นๆอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการฟื้นตัวของเอเชีย
เอดีบีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเอเชีย ไม่นับรวมจีน, อินเดีย, เกาหลีใต้ และประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะขยายตัวเพียง 3.4% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 5.6% โดยเอดีบีระบุว่าแม้อัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งของจีนและอินเดียจะช่วยพยุงเอเชียเอาไว้ได้ แต่เศรษฐกิจในประเทศอื่นๆของเอเชียยังคงมีแนวโน้มหดตัวลง
ในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอดีบีคาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.7% จากปีพ.ศ.2551 ที่ขยายตัว 4.3% ส่วน 3 ประเทศยักษ์ใหญ่ด้านการส่งออกคือประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์นั้น คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัว 2% ขณะที่สิงคโปร์และมาเลเซียจะหดตัวรุนแรงถึง 5%
เอดีบีคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 7% ในปีนี้ และ 8% ในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวเพียง 5% ในปีนี้ เนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจอ่อนแอลง และเป็นเหตุให้เม็ดเงินทุนไหลเวียนในระบบหดตัวลงด้วย นอกจากนี้ เอดีบีคาดว่าเศรษฐกิจฮ่องกงจะหดตัว 2% เกาหลีใต้หดตัว 3% และไต้หวันหดตัวลง 4%
นายจอง วาห์ ลี หัวหน้านักวิเคราะห์ของเอดีบีกล่าวว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียมีแนวโน้มชะลอตัวในระดับรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงินในเอเชียเมื่อปีพ.ศ.2540-41 โดยระบุว่าหลายประเทศในเอเชียยังไม่สามารถลดจำนวนคนยากจนได้ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีประชาชนกว่า 60 ล้านคน และเกือบ 100 ล้านคนในปีหน้า ดำรงชีพด้วยเงินน้อยกว่า 1.25 ดอลลาร์/วัน
"ในระยะสั้นนี้ เศรษฐกิจเอเชียจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่ของเอเชีย อย่างไรก็ตาม คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อในเอเชียจะลดลงแตะระดับ 2.4% ในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนตัวลงด้วย" นายลีกล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน