สมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปต่อกรณีที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้บีบให้ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอย่างบริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) และไครสเลอร์ กลับไปจัดทำแผนปรับโครงสร้างธุรกิจมาใหม่ หลังจากที่คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ปฏิเสธแผนปรับโครงสร้างของจีเอ็มและไครสเลอร์และก่อให้เกิดกระแสความวิตกกังวลในอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกว่า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทั้งสองแห่งอาจล้มละลาย และอาจสั่นคลอนเสถียรภาพของอุตสาหกรรมรถยนต์ในตลาดโลก อีกทั้งสร้างความหวั่นวิตกให้กับพนักงานบริษัทรถยนต์ในหลายประเทศ
สมาชิกรีพับลิกันบางส่วนได้ออกมาวิจารณ์การบีบให้นายริก วาโกเนอร์ ซีอีโอของจีเอ็มลาออกจากตำแหน่ง โดยวุฒิสภาจากรัฐมิชิแกน โอไฮโอ และรัฐอื่นๆที่ต้องพึ่งพาอุตสหากรรมยานยนต์ หวังว่าแผนการดังกล่าวจะช่วยให้จีเอ็มและไครสเลอร์รอดพ้นจากภาวะล้มละลาย โดยนายคาร์ล เลวิน วุฒิสมาชิกรัฐมิชิแกนจากเดโมแครต กล่าวว่า การล้มละลายไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม เพราะหากเกิดการล้มลายขึ้นก็จะทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงอื่นๆตาม เช่น ผลกระทบต่อผู้บริโภคที่ไม่อยากจะซื้อรถ ดังนั้น โอบามาจะต้องให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมยานยนต์และช่วยเหลือให้บริษัทรถดังกล่าวรอดพ้นจากการล้มละลาย
บลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโอบามาได้รายงานให้กับวุฒิสมาชิกและส.ส.บางส่วนทางโทรศัพท์ หลังจากที่มีข่าวเรื่องการบีบให้ซีอีโอของจีเอ็มลาออก ขณะที่คณะทำงานของโอบามาก็ได้ออกมาชี้แจงกับวุฒิสมาชิกและพนักงานทางโทรศัพท์เป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน
วุฒิสมาชิกจอร์จ วี วอยโนวิช สมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐโอไฮโอ และประธานร่วมของคณะกรรมการวุฒิสภาฝ่านยานยนต์ได้ชื่นชมโอบามาที่ยังคงยืนกรานให้มีการปรับโครงสร้างบริษัทอย่างเข้มงวดมากขึ้น และหวังว่า คณะทำงานจะผลักดันให้จีเอ็มตัดสินใจในเรื่องที่จำเป็นต่อการอยู่รอดต่อไป ทางด้านส.ส.จอห์น ดินเกล จากรัฐมิชิแกนสังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวในเชิงเปรียบเทียบถึงเรื่องดังกล่าวว่า การล้มละลายถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายต่อจากเรื่องการหย่าร้างเลยทีเดียว
ส.ส.แซนเดอร์ เลวิน จากพรรคเดโมแครตรัฐมิชิแกน เสนอให้ผู้ถือพันธบัตรของจีเอ็มให้ความเห็นชอบเรื่องการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทต้องล้มละลาย การเจรจาเรื่องการล้มละลายจำเป็นต้องสร้างแรงกดดันให้กับกลุ่มผู้ถือพันธบัตรด้วยเช่นกัน
โอบามาได้ปฏิเสธแผนการปรับโครงสร้างที่จีเอ็มและไครสเลอร์ได้เสนอมา โดยชี้ว่า แผนการดังกล่าวมีเนื้อหาที่สั้นเกินไปในส่วนของการลดต้นทุนเพื่อที่จะรับประกันว่าบริษัทจะสามารถกลับมาทำกำไรได้ และยังให้เวลาทั้ง 2 บริษัทกลับไปจัดทำแผนการปรับโครงสร้างขั้นพื้นฐานมาใหม่ หรือลดการให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อที่บริษัทจะได้อยู่รอดในภาวะที่เลวร้ายที่สุดสำหรับตลาดยานยนต์ในรอบ 27 ปี
โอบามาได้ให้เวลาจีเอ็ม 60 วันกลับไปทำยุทธศาสตร์ใหม่มาเสนอ และให้เวลาไครสเลอร์ 30 วันในการทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับเฟียต และเรียกร้องให้เจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ดีลเลอร์ และซัพพลายเออร์ของทั้ง 2 บริษัทเสียสละมากกว่านี้