นักวิเคราะห์จากหลายสำนักคาดการณ์ว่า สกุลเงินเอเชียมีแนวโน้มอ่อนค่าลงในเดือนนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนเองยังคงเลี่ยงความต้องการซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงในระยะนี้
ท่าทีที่เลวร้ายในการรับมือวิกฤตการเงินทั่วโลกจากการประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้อาจทำให้นักลงทุนเพิ่มการเข้าถือครองเงินดอลลาร์มากกว่าเงินในเอเชีย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินวอนของเกาหลีใต้ ดอลลาร์ไต้หวัน ดอลลาร์สิงคโปร์ ไปจนถึงสกุลเงินริงกิตของมาเลเซีย ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐที่คึกคักในเดือนมี.ค.อาจเริ่มเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้ามแม้ว่าตลาดจะคลายความผันผวนและความเสี่ยงในตลาดสินเชื่อเริ่มคลายความรุนแรงลงแล้วก็ตาม
แดเนียล เทเนนกาเซอร์ นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า ผลการประชุม G20 อาจสร้างความผิดหวังให้หลายฝ่าย และความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐจะเป็นตัวกระตุ้นให้นักลงทุนซื้อเงินดอลลาร์ในตลาดปริวรรตเงินตราแทน และคาดว่า เงินวอนอาจอ่อนค่าลง 4.4% แตะที่ 1,450 ต่อดอลลาร์ในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 1,350 ต่อดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ส่วนเงินริงกิตอาจอ่อนค่าลง 0.3% สู่ระดับ 3.6600 ต่อดอลลาร์ก่อนเคลื่อนไหวแตะที่ 3.7000 ต่อดอลลาร์ในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สิงคโปร์อาจทรงตัวเหนือระดับ 1.51 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์สิงคโปร์เนื่องจากเจ้าหน้าที่ด้านการเงินได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วยการลดช่วงการซื้อขายสกุลเงินลงในเดือนนี้
ทั้งนี้ ผู้นำกลุ่มประเทศ G-20 จะเข้าร่วมประชุมกันที่กรุงลอนดอนเพื่อหารือถึงแผนการกระตุ้นอุปสงค์ในตลาดโลกและหาทางกู้วิกฤตการเงินและเศรษฐกิจ ขณะเศรษฐกิจญี่ปุ่นดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากการส่งออกและภาคการผลิตตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สหรัฐเปิดเผยถึงแผนการปล่อยให้บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ ล้มละลาย