ประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศสกล่าวว่า ร่างข้อตกลงสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 จะไม่มีอำนาจพอที่จะสามารถขจัดการโกงภาษี ขณะที่นายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ ของญี่ปุ่นได้วิจารณ์เยอรมนีกรณีไม่ยอมเพิ่มการใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ
การแสดงความคิดเห็นจากผู้นำประเทศต่างๆในครั้งนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงมุมมองที่แตกต่างกัน ในขณะนี้พวกเขากำลังหาทางปฏิรูปตลาดเงินและต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่นับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุยุโรปวันว่า "ข้อเสนอแก้ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ไม่เหมาะกับฝรั่งเศสและเยอรมนี และผมมองว่าไม่มีข้อตกลงฉบับไหนที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกได้เลยว่า เราจำเป็นต้องต่อสู้จนนาทีสุดท้าย" ขณะเดียวกันด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษหลัง ก่อนการประชุมจี20 จะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ซึ่งจะเป็นเวทีที่นายโอบามาได้พบกับประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีนและประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซียเป็นครั้งแรก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยเลวร้ายลงเรื่อยๆนับตั้งแต่บรรดาผู้นำร่วมประชุมกันที่กรุงวอชิงตันในเดือนพ.ย. โดยกลุ่มองค์กรเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจคาดว่า เศรษฐกิจในกลุ่มชาติสมาชิกทั้ง 30 ประเทศจะหดตัวลง 4.3% ในปีนี้และคาดว่ากลุ่มประเทศจี-7จะมีผู้ตกงานถึง 36 ล้านคนในปลายปีหน้า ส่วนธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของประเทศกำลังพัฒนาในปีนี้ลงกว่าครึ่งหนึ่งเหลือเพียง 2.1%
ทั้งนี้ จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้กระตุ้นให้หลายประเทศจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อกระตุ้นการขยายตัวกลับคืนมา โดยเยอรมนีและฝรั่งเศสได้นำร่องให้ประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งทั้งสองประเทศมองว่า เม็ดเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ในระดับที่เพียงพอแล้ว ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวเพิ่มมากกว่านี้อาจทำให้เกิดหนี้สินเพิ่มสูงขึ้นตามมา ขณะที่ผู้นำญี่ปุ่นเตรียมประกาศใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 3 ออกมาอีกระลอก