สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่ากองทุน ETF ทั้งในสวิสและญี่ปุ่นเพิ่มการถือครองทองคำ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยหลังจาก ADP ระบุว่าภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานจำนวนมาก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 927.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 918.60-935.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 12.975 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.8490 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนก.ค.ปิดที่ 1,143.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมิ.ย.ปิดที่ 221.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์
ตลาดทองคำ COMEX ขานรับข่าวที่ว่ากองทุน ETF ของธนาคารซูริค แคนโทนาล แบงค์ เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำ 37.5 % ในไตรมาสแรกของปี 2552 ขณะที่กองทุน SPDR Gold Trust หรือ GLD เปิดเผยว่าการถือครองทองคำยังคงอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,127.44 ตัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันหลังจาก ADP National Employment Report รายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 742,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี