ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร หลังธนาคารกลางยุโรปหั่นดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด

ข่าวต่างประเทศ Friday April 3, 2009 07:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรปลดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนแห่เทขายดอลลาร์และนำเงินเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น หลังจากที่ประชุม G20 ให้คำมั่นว่าจะอัดฉีดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์การเงินโลก

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.59% แตะระดับ 1.3441 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.3231 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.51% แตะระดับ 1.4701 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4461 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 1%เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.530 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 98.540 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.92% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1358 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1464 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 2.45% แตะระดับ 0.7157 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.6986 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.98% แตะระดับ 0.5773 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5661 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

อาร์ชาฟ ไลดี นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจลดดอกเบี้ยลง 0.25% แตะที่ระดับ 1.25% ในการประชุมเมื่อเย็นวานนี้ ซึ่งผิดจากความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่เชื่อว่าธนาคารลางจะลดดอกเบี้ยลง 0.5% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1%

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าธนาคารกลางยุโรปจะลดดอกเบี้ยลง 0.5% และจะเข้าซื้อหนี้เสียในภาคการธนาคารเพื่อยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคมในเขตยูโรโซน หรือ กลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.6% จากระดับ 1.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเรื่องภาวะเงินฝืด

นักลงทุนแห่เทขายดอลลาร์สหรัฐและหันเข้าลงทุนในตลาดหุ้น หลังจากมีข่าวว่ากลุ่ม G20 เตรียมอัดฉีดเงินทุนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพิ่มอีก 5 แสนล้านดอลลาร์ รวมกับเงินทุนเดิมเป็น 7.5 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับมรสุมทางเศรษฐกิจและการเงิน และจะเปิดทางให้ IMF ปล่อยกู้เงินยืมฉุกเฉินให้กับตลาดทุนทั่วโลกในกรณีที่จำเป็น

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ชาวอเมริกันที่เข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 มี.ค.พุ่งขึ้น 12,000 ราย แตะระดับ 669,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 ปี เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้บริษัทหลายแห่งพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงานและลดกำลังการผลิตท่ามกลางวิกฤตยอดขายตกต่ำ

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 8.1% และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนมี.ค.จะร่วงลง 660,000 คน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ