ที่ประชุม G20 มีมติอัดฉีดเงิน $1.1 ล้านล้านกู้วิกฤติศก.โลก เน้นเพิ่มทุนให้ IMF ช่วยปท.ประสบปัญหา

ข่าวต่างประเทศ Friday April 3, 2009 08:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยที่ประชุมสนับสนุนให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีบทบาทเป็นแกนนำในการรับมือกับวิกฤตการเงินและวางระเบียบควบคุมระบบการเงินโลก ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติอัดฉีดงบประมาณรวม 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินและยับยั้งเศรษฐกิจโลกจากภาวะถดถอย ซึ่งครอบคลุมถึงการอัดฉีดเงินทุนให้กับ IMF เพิ่มอีก 5 แสนล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมกับเงินทุนก้อนเดิมเป็น 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงิน

นอกจากนี้ ที่ประชุม G20 ยังเตรียมทุ่มเงินถึง 2.5 แสนล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการค้าโลกในระยะ 2 ปี โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นสินเชื่อเพื่อการส่งออกและการลงทุน รวมถึงอัดฉีดให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนระดับภูมิภาค

ที่ประชุม G20 ยังเปิดทางให้ IMF ปล่อยกู้เงินยืมฉุกเฉินให้กับตลาดทุนทั่วโลกในกรณีที่จำเป็น ขณะเดียวกัน นายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า กลุ่ม G20 กำลังพิจารณาให้ IMF ขายทองคำในคลังสำรองเพื่อระดมทุนในการช่วยเหลือประเทศยากจน อย่างไรก็ตาม กลุ่ม G20 ยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ

ในส่วนของมาตรการควบคุมระบบการเงินนั้น ที่ประชุม G20 มุ่งเน้นเรื่องการตรวจสอบกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ ผ่านการจัดตั้งหน่วยงานตรวจสอบเฉพาะ และยังหารือกันเรื่องการควบคุมแหล่งฟอกเงินและเลี่ยงภาษี ซึ่งในประเด็นนี้ นายอลิสแตร์ ดาร์ลิง รัฐมนตรีคลังอังกฤษเตือนว่าประเทศที่เป็นแหล่งฟอกเงินและเลี่ยงภาษีจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากกลุ่ม G20 อย่างแน่นอน

นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการ IMF กล่าวในที่ประชุมว่า เศรษฐกิจโลกคงฟื้นตัวได้ยากหากไม่มีการแก้ไขปัญหาในภาคการเงินและการธนาคารอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับแสดงความชื่นชมสหรัฐที่รุกคืบใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเห็นด้วยกับยุโรปที่มุ่งเน้นการจัดระเบียบควบคุมในระบบการเงิน อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการ IMF มองว่าทั้งสหรัฐและยุโรปยังแก้ไขปัญหาในระบบการเงินได้ไม่รวดเร็วพอ

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้แสดงความพอใจต่อผลการประชุม G20 โดยกล่าวว่าการที่ผู้นำในที่ประชุมมีความเห็นพ้องต้องกันในประเด็นหลักๆที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลกนั้น ทำให้การประชุม G20 ครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ และกล่าวด้วยว่าวิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งนี้นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญทั้งในด้านความร่วมมือและการใช้มาตรการเชิงรุกครั้งใหญ่ นอกจากนี้ โอบามากล่าวชื่นชมผู้นำกลุ่ม G20 ที่ร่วมกันต่อต้านนโยบายกีดกันทางการค้า และสามารถประสานความแตกต่างทางความคิดให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้

ขณะที่ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสก็แสดงความพอใจกับการประชุมครั้งนี้เช่นกัน โดยนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งก่อนหน้านี้เคยขู่ว่าจะวอล์คเอาท์ออกจากที่ประชุมหากผลการประชุมออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ กล่าวว่า เขารู้สึกพอใจกับผลการประชุมครั้งนี้เป็นอย่างยิ่งและเป็นผลการประชุมที่เหนือความคาดหมายของเขา พร้อมกล่าวว่า ยุคสมัยที่การดำเนินงานของธนาคารและสถาบันการเงินต้องเป็นความลับและไม่สามารถตรวจสอบได้นั้น ควรจะจบสิ้นลงแล้ว

รายงานข่าวที่ว่า ที่ประชุม G20 ทุ่มงบประมาณสูงถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ในการคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินโลกครั้งนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 216.48 จุด หรือ 2.79% ปิดที่ 7,978.08 จุดเมื่อคืนนี้ และทำให้มีแรงซื้ออย่างล้นหลามในตลาดน้ำมัน NYMEX โดยสัญญาน้ำมันดิบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 4.25 ดอลลาร์ หรือ 8.78% ปิดที่ 52.64 ดอลลาร์/บาร์เรล สำนักข่าวเอพีรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ