การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยที่ประชุมสนับสนุนให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีบทบาทเป็นแกนนำในการรับมือกับวิกฤตการเงินและวางระเบียบควบคุมระบบการเงินโลก ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติอัดฉีดงบประมาณรวม 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินและยับยั้งเศรษฐกิจโลกจากภาวะถดถอย ซึ่งครอบคลุมถึงการอัดฉีดเงินทุนให้กับ IMF เพิ่มอีก 5 แสนล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมกับเงินทุนก้อนเดิมเป็น 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงิน
-- จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งสูงเกินคาด และยังทำสถิติเพิ่มขึ้นสูงสุดต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงอ่อนแอและยังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นตัวได้ในเร็ววัน แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆจะเริ่มส่งสัญญาณให้เห็นถึงการฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้วก็ตาม
-- จีนเผยภาคการผลิตขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังรัฐบาลจีนทุ่มงบประมาณ 4 ล้านล้านหยวน (5.85 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยสมาพันธ์การจัดซื้อและขนส่งสินค้าแห่งประเทศจีน เปิดเผยว่า ดัชนีการจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 52.4 จุดในเดือนมี.ค. จาก 49 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งหากอยู่ที่ระดับ 50 จุดขึ้นไปถือว่ามีการขยายตัว
-- นาจิบ ราซัค ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 6 ของมาเลเซีย ต่อพระพักตร์ของสมเด็จพระราชาธิบดี มิซาน ไซนัล อาบิดิน แล้วในวันนี้ พร้อมทำหน้าที่บริหารประเทศต่อจากนายอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี ที่ลาออกไปเพื่อเปิดทางให้ผู้นำคนใหม่ในยามบ้านเมืองเผชิญวิกฤตศรัทธาทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ
-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ลงมาแตะที่ระดับ 7.50% วันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เนื่องจากการส่งออกที่ซบเซาและภาวะเงินเฟ้อ
-- สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐซึ่งมีพรรคเดโมเครตครองเสียงข้างมากในสภาได้อนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2553 มูลค่า 3.55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งร่างงบประมาณฉบับนี้มีมูลค่าน้อยกว่าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ยื่นให้ทางสภาคองเกรสพิจารณาไปในก่อนหน้านี้
-- เครื่องบิน McDonnell Douglas MD-11 ของบริษัท เฟดเอ็กซ์ ได้ร่อนลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนาริตะของญี่ปุ่นในวันนี้ ส่งผลให้ทางสนามบินต้องสั่งปิดรันเวย์หลักอีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุเครื่องรุ่นเดียวกันของเฟดเอ็กซ์กระแทกรันเวย์และระเบิดทั้งลำเมื่อเดือนที่แล้ว
-- รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมใช้นโยบายเก็บลายนิ้วมือและรูปถ่ายของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป หวังควบคุมกฎหมายการอพยพให้เข้มงวดกว่าเดิม