นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 8.5% และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนมี.ค.จะร่วงลง 660,000 คน ซึ่งจะทำให้จำนวนคนตกงานโดยรวมพุ่งขึ้นเป็น 5 ล้านคน
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานประจำเดือนมี.ค.ในคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย)
สจ๊วต ฮอฟฟ์แมน นักวิเคราะห์จาก PNC Financial Services Group Inc กล่าวว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นรุนแรงในเดือนมี.ค.มาจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่บีบให้ภาคเอกชนลดการจ้างงาน ซึ่งทำให้ประชาชนลดตัวเลขการใช้จ่ายและทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้าลง
การเปิดเผยอัตราว่างงานและตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของกระทรวงแรงงานสหรัฐจะมีขึ้นหลังจาก ADP National Employment Report รายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 742,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ส่วนเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ชาวอเมริกันที่เข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 มี.ค.พุ่งขึ้น 12,000 ราย แตะระดับ 669,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 ปี
ปัญหาการว่างงานถือเป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงของรัฐบาลสหรัฐ โดยในช่วงกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีบารัคโอบามาลงนามในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์ ที่มุ่งเน้นเรื่องการให้สวัสดิการด้านสุขภาพแก่ประชาชนที่ตกงานด้วย นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโอบามามั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นการจ้างงานได้ถึง 3.5 ล้านตำแหน่ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน