จิม โอนีล หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจโลกของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า ยุโรปจะเป็นภูมิภาคที่ฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์การเงินโลกช้าที่สุด เนื่องจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของยุโรปยังพยายามไม่มากพอในการใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
"เราคาดว่ายุโรปจะฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์การเงินช้ากว่าประเทศอื่นๆในโลก เพราะยุโรปยังล้าหลังประเทศอื่นๆในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยุโรปไม่มีปัจจัยสำคัญๆในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของตนเอง เพราะต้องอาศัยปัจจัยจากภายนอกมาโดยตลอด นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรปยังตื่นตัวน้อยกว่าธนาคารกลางอื่นๆของโลก อาทิ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยจนเกือบแตะระดับ 0% และยังใช้มาตรการเชิงรุกด้วยการเข้าซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงินภายในประเทศ" นักวิเคราะห์โกลด์แมน แซคส์กล่าว
โอนีลคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะยังคงถดถอยต่อไปในอีก 2 ไตรมาสข้างหน้า แต่คาดว่าเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้
เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% แตะที่ระดับ 1.25% ซึ่งผิดจากความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่เชื่อว่าธนาคารลางจะลดดอกเบี้ยลง 0.5% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1%
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคมในเขตยูโรโซน หรือ กลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.6% จากระดับ 1.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเรื่องภาวะเงินฝืด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน