บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ (GM) เร่งดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลาย แม้ว่าฝ่ายผู้บริหารของบริษัทจะหาทางแก้ด้วยการปรับปรุงแผนการปรับโครงสร้างบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทต้องประสบภาวะล้มละลายจริงๆ
บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า การเตรียมความพร้อมเพื่อยืนขอคุ้มครองจากการล้มละลายนี้มุ่งเน้นในเรื่องการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่โดยใช้สินทรัพย์ที่ดีที่สุดของจีเอ็ม หากพิจารณาแล้วว่าจำเป็น นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือเรื่องการลดต้นทุนและวิธีการลดหนี้ตามข้อเสนอของบริษัทลง 46% และลดพนักงาน 47,000 รายในปีนี้ รวมทั้งการเจรจากับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงคลังสหรัฐ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อรับมือหลังจากที่คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ปฏิเสธแผนการปรับโครงสร้างของจีเอ็ม ขณะที่กลุ่มผู้ถือพันธบัตรของบริษัทและสหภาพแรงงานเองก็ไม่เห็นด้วยกับการลดสวัสดิการลง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่อาจจะทำให้บริษัทต้องยื่นขอล้มละลายจริงๆ
เมื่อวานนี้และวันนี้ คณะกรรมการบริหารของจีเอ็มได้ประชุมร่วมกัน รวมทั้งมีการวางแผนที่จะประชุมร่วมกับทีมงานของโอบามา หลังจากที่คณะทำงานของโอบามาให้เวลาจีเอ็ม 60 วันในการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อแลกกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน พร้อมกับวางเงื่อนว่าซีอีโอของจีเอ็มควรจะลาออกจากตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ คณะทำงานเฉพาะกิจด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐมีมติคัดค้านแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และบริษัทไครสเลอร์ โดยให้เหตุผลว่าค่ายรถยนต์ทั้งสองไม่ได้นำเสนอแผนปรับโครงสร้างที่น่าเชื่อถือถึงขนาดทำให้กิจการดำรงอยู่ต่อไปได้ และคาดว่าค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอาจดำเนินกิจการต่อไปได้เพียง 2 เดือนเท่นั้น
คณะทำงานระบุว่า ไครส์เลอร์ไม่สามารถดำเนินธุรกิจตามแผนการปัจจุบันได้ แม้รัฐบาลให้เวลา 30 วันในการควบรวมกิจการกับบริษัท เฟียต เอสพีเอของอิตาลี และเสนอว่าจะให้เงินช่วยเหลือ 6 พันล้านดอลลาร์หากบริษัทสามารถทำข้อตกลงกับเฟียตได้ก่อนเวลาที่กำหนด แต่หากไครสเลอร์ไม่สามารถควบรวมกิจการกับเฟียตได้ รัฐบาลก็จะตัดความช่วยเหลือทันที