คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการฟื้นฟูเข้าซื้อสินทรัพย์ที่เกิดปัญหา (TARP) ได้เสนอให้มีการปลดผู้บริหารระดับสูงออก และแก้ปัญหาของธนาคาร เพื่อเป็นหนทางในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจที่ดีกว่า คณะทำงานของสภาคองเกรสได้ระบุในรายงานที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า กระทรวงคลังมองสถานการณ์ทางเศรษฐกิจภายหลังการใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจดีเกินจริง เพราะความสำเร็จจากมาตรการดังกล่าวก็ยังไม่ชัดเจน
บลูมเบิร์กรายงานว่า คณะทำงานยังได้ระบุในรายงานว่า ความพยายามในการแก้วิกฤตภาคธนาคารจะต้องใช้วิธีการหลายอย่างรวมกัน ตั้งแต่การปลดผู้บริหารที่ไม่มีความสามารถออกไป และเข้าไปควบคุมขั้นตอนการประเมินงบดุลของธนาคาร
นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้แนะให้คณะกรรมการให้ความสำคัญกับการอัดฉีดเงินทุนเข้าแบงค์ และกำจัดสินทรัพย์ที่ขาดสภาพคล่องมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ออกจากบัญชีผ่านทางการเป็นพันธมิตรด้านการลงทุนกับภาคเอกชนและประชาชน นอกจากนี้ รัฐบาลยังดำเนินการให้มีการสนับสนุนสภาพคล่องในตลาดสินเชื่อผ่านทางโครงการของธนาคารกลางสหรัฐเพื่อจัดหาเงินกู้ให้กับนักลงทุน
ศาสตราจารย์อลิซาเบธ วอร์เรน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงาน TARP ด้วย กล่าวว่า สถานการณ์อาจจะดีขึ้นเล็กน้อยภายใต้การดูแลของไกธ์เนอร์ กระทรวงคลังเองยังต้องมีความโปร่งใสมากกว่านี้เกี่ยวกับวิธีการใช้เงินภาษีของประชาชน ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจยังต้องใช้เวลาอีกนาน