หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากพรรคเสรีประชาธิปไตยว่า ญี่ปุ่นอาจจะใช้งบประมาณราว 15 ล้านล้านเยน หรือ 1.50 แสนล้านดอลลาร์กับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศประมาณ 3% หากมีการอนุมัติงบดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายทาโร่ อาโสะ จะใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจถึง 25 ล้านล้านเยน นับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งนายกฯเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า นายอาโสะจะต้องจัดการเลือกตั้งขึ้นในเดือนก.ย. ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยบริษัทชั้นนำของประเทศอย่างโตโยต้า โซนี่ ต่างต้องลดการผลิตและปลดพนักงาน
คาโอรุ โยซาโน่ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น กล่าวว่า งบประมาณการใช้จ่ายจะพุ่งเป้าไปที่ตลาดแรงงาน การปล่อยสินเชื่อให้บริษัทเอกชน เทคโนโลยีด้านพลังงาน การสนับสนุนภูมิภาคและด้านสวัสดิการ
องค์การพัฒนาและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หรือ OECD ชี้ว่า ความสามารถในการฟื้นเศรษฐกิจของรัฐบาลถูกจำกัดด้วยเรื่องหนี้สินและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกมากในปีหน้า ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่นก็ได้ออกมาเปิดเผยในวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังถดถอยลงอย่างหนัก และได้คงการประเมินเศรษฐกิจไว้ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แล้ว
ยอดบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นช่วงปีงบประมาณการเงิน 2551 ซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้น 12.39% จากระดับปีที่แล้ว นับเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบ 6 ปี ที่ 16,146 ราย ส่วนหนี้สินเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า แตะ 14.02 ล้านล้านเยน โดยจำนวนบริษัทที่ล้มละลายนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว
นักเศรษฐศาสตร์บางรายกล่าวว่า การที่รัฐบาลใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากการที่รัฐบาลไม่ออกมาทำอะไรในตอนนี้จะส่งผลเสียในระยะยาว