ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและผลประกอบการในภาคเอกชน นอกจากนี้ ภาวะผันผวนในตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์และเข้าซื้อเงินเยนเพราะเชื่อว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.83% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 99.670 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 100.50 เยน/ดอลลาร์ แต่ขยับขึ้น 0.49% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1485 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1429 ฟรังค์/ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินยูโรขยับลง 0.17% แตะระดับ 1.3245 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3267 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ร่วงลง 0.32% แตะระดับ 1.4685 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4732 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7085 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.7096 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.5769 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5746 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
เดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จาก Foreign Exchange Analytics กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและผลประกอบการในภาคเอกชน นอกจากนี้ ภาวะผันผวนในตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์และเข้าซื้อเงินเยนเพราะเชื่อว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า
ความวิตกกังวลเรื่องผลประกอบการของบริษัทเอกชนเริ่มขึ้นเมื่อบริษัทอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกรายงานตัวเลขขาดทุนไตรมาสแรกของปีนี้ที่ 497 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนได้ส่งผลให้ราคาอลูมิเนียมปรับตัวลดลงและยังฉุดรั้งอุปสงค์อลูมิเนียม
โดยอัลโค รายงานตัวเลขขาดทุนต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ซึ่งรายงานดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นว่า อุตสาหกรรมที่ต้องใช้อลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญเช่นอุตสาหกรรมยานยนต์และการก่อสร้างทรุดตัวลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยยอดสั่งซื้อโลหะที่ใช้เป็นส่วนประกอบรถยนต์ และเครื่องบินเริ่มลดลงขณะที่เศรษฐกิจอ่อนแอ ในทางกลับกันสต็อกอลูมิเนียมเพิ่มสูงขึ้น แต่ราคาอลูมิเนียมลดลง และผู้ผลิตอลูมิเนียมเริ่มปรับลดกำลังการผลิตทั่วโลก
นอกจากนี้ อัลโคประกาศแผนการปลดพนักงานทั่วโลกลง 13% และขาย 4 ธุรกิจของบริษัท รวมถึงปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นตัวเลขงบดุลบัญชีให้มีความสมดุล
ABC News เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐโดยระบุว่าดัชนี Consumer Comfort Index ร่วงลงแตะระดับ -50 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ -49 จุด ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ -49 จุด
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปี โดยนายริค แบทเทลลิโน รองผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย กล่าวว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียจะหดตัวลงเป็นครั้งแรกในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอยมากขึ้นทำให้ความต้องการสินค้าส่งออกเช่น ทรัพยากรธรรมชาติหดตัวลง
สำนักงานสถิติแห่งชาติของยุโรปรายงานว่า เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนหดตัวลง 1.6% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งรุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ว่าจะหดตัวที่ 1.5% ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษทรุดตัวลงติดต่อกันยาวนานถึง 12 เดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตของอังกฤษย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง