รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานในภาคเอกชนประจำเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.4% แตะระดับ 7.281 แสนล้านเยน ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในโพลล์สำนักข่าวเกียวโดคาดว่าจะร่วงลง 8.1% และโพลล์สำนักข่าวบลูมเบิร์กที่คาดว่าจะร่วงลง 6.9%
เคียวเฮอิ โมริตะ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ส แคปิตอล ในกรุงโตเกียวกล่าวว่า "ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานในภาคเอกชน เป็นมาตรวัดแนวโน้มการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชนในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนก.พ.ที่พุ่งขึ้นเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์จากหลายโพลล์สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังพอมีความหวังที่จะฟื้นตัวขึ้นและสามารถหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด"
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าภาวะการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยังคงซบเซา หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (ทังกัน) ที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ทรุดตัวลงในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากภาวะผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์สินเชื่อในสหรัฐที่ฉุดรั้งยอดส่งออกของญี่ปุ่นทรุดตัวลงด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ผลิตขนาดใหญ่ รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ร่วงลงแตะระดับ -58 จุดในไตรมาสแรกของปีนี้ จากไตรมาสสี่ของปี 2551ที่ระดับ -24 จุด เนื่องจากยอดส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมทรุดตัวลงเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน