พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของญี่ปุ่นเตรียมเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 15.4 ล้านล้านเยน (1.54 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมีสัดส่วนคิดเป็น 3% ของตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP)
จากวงเงินที่เสนอขึ้นมาในมาตรการฉบับนี้จะส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายโดยรวมในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมีจำนวนทั้งสิ้น 25 ล้านล้านเยน นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ เข้าดำรงตำแหน่งในเดือนก.ย. โดยในสัปดาห์นี้ อาโสะกล่าวว่า ตนต้องการที่จะใช้จ่ายเงินอย่างน้อย 10 ล้านล้านเยนในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับล่าสุด
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยบริษัทหลายแห่งต่างปรับลดกำลังการผลิตและปลดพนักงานหลายตำแหน่ง ด้านคาโอรุ โยซาโนะ รมว.คลังกล่าวในสัปดาห์นี้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะมุ่งเน้นที่ตลาดแรงงาน การปล่อยสินเชื่อให้บริษัทเอกชน เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน การช่วยเหลือด้านสวัสดิการสังคม
"ญี่ปุ่นเผชิญภาวะเศรษฐกิจเลวร้ายที่สุดในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว และภาวะดังกล่าวได้กดดันให้รัฐบาลต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาล" จันโกะ นิชิโอกะ นักวิเคราะห์จากอาร์บีเอส ซีเคียวริตี้ เจแปนในโตเกียวกล่าวพร้อมทั้งชี้ว่า มาตรการนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง ซึ่งต่างจากมาตรการฉบับก่อนๆ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่เปิดเผยเมื่อวานนี้บ่งชี้ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังเผชิญความผันผวน โดยยอดส่งออกในเดือนก.พ.จมดิ่งลง 50.4% จากระดับในปีก่อนหน้านี้ ส่วนผลสำรวจอีกฉบับระบุถึงอัตราการล้มละลายที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปีในเดือนมี.ค. ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ชี้ว่าเศรษฐกิจเลวร้ายลงอย่างรุนแรง