บริษัท อินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) กำลังขยายฐานธุรกิจในอินเดียและเดินหน้าชิงส่วนแบ่งตลาดเพื่อแซงหน้าบริษัทเทคโนโลยีคู่แข่งในอินเดีย รวมถึงบริษัท ทาทา คอนซัลแทนซี เซอวิสเซส และบริษัท อินโฟซิส เทคโนโลยีส์
แอนดี้ มิดเลอร์ นักวิเคราะห์จาก Edward Jones & Co.กล่าวว่า ขณะที่ทาทา คอนซัลแทนซี และอินโฟซิส เทคโนโลยีส์ รุกซื้อบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งของสหรัฐและมีข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนแรงงานที่ถูกกว่านั้น IBM สามารถพลิกเกมให้กลายเป็นฝ่ายรุกด้วยการทำสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่ของอินเดีย อาทิ บริษัท บาร์ตี แอร์เทล ซึ่งยุทธศาสตร์ที่เหนือชั้นกว่าจะช่วยให้ IBM สามารถเอาตัวรอดในระบบเศรษฐกิจของอินเดียได้
ซานดิพ ปาเตล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการของ IBM เปิดเผยว่า IBM จ้างพนักงงานกว่า 70,000 คนในอินเดีย ซึ่งการวางยุทธศาสตร์แบบ “hyper-growth" ได้เปิดทางให้ IBM มีโอกาสช่วยเหลือบริษัทอินเดียในการพัฒนาสาธารณูปโภค และคาดว่า IBM จะสามารถดึงฐานลูกค้าจากบริษัท ซัตยัม คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส ของอินเดียที่กำลังถูกกระทบอย่างหนักจากคดีฉ้อโกง นอกจากนี้ ปาเตลกล่าวว่ายอดขายของ IBM ในอินเดียสูงกว่ายอดขายในประเทศอื่นๆตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
ภาคเอกชนของอินเดียกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าในตลาดด้านการบริการมีสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว 5.3% ในปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัว 2.6% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน