บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำกัด ประกาศปลดพนักงานราว 900 ตำแหน่งในกลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนราว 6% ของพนักงานในอุตสาหกรรมยาของสหรัฐ
คาร่า รัสเซลล์ โฆษกหญิงของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันกล่าวว่า การปลดพนักงานครั้งนี้จะส่งผลกระทบในส่วนของตัวแทนจำหน่ายยาในบริษัท Ortho-McNeil-Janssen Pharmaceuticals ขณะที่งานในส่วนอื่นๆจะถูกลดทอนลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันเป็นบริษัทยารายล่าสุดที่ปลดพนักงานลงเช่นเดียวกับบริษัทไฟเซอร์ และเมอร์ก แอนด์ โคท่ามกลางการแข่งขันในอุตสาหกรรมยาที่สูงขึ้น โดยยอดขายยา Risperdal ที่เป็นสินค้าขายดีของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันร่วงลงเหลือ 2.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว จากระดับ 3.42 พันล้านดอลลาร์ในปี 2550 เนื่องจากมีคู่แข่งที่จำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าในตลาด ขณะที่ยารักษาอาการปวดไมเกรน Topamax ก็ไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิบัตรในช่วงต้นปีนี้ "สถานการณ์ในธุรกิจด้านการรักษาสุขภาพกำลังมาถึงจุดเปลี่ยน ดังนั้นบริษัทยาต้องพิจารณาให้ดีว่าอะไรเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดในภาวะเช่นนี้" รัสเซลล์กล่าว "ปัญหาอยู่ที่ว่าบริษัทยาจะพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างไรจึงจะเพิ่มมูลค่าสินค้าให้แก่แพทย์ ผู้ป่วย และผู้ถือหุ้นได้มากที่สุด"
ทั้งนี้ ณ วันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันมีพนักงานทั้งสิ้น 119,000 คน