นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลกระทบต่อการท่องเที่ยวจากเหตุการชุมนุมว่า เป็นการกระทำที่ร้ายแรงเช่นเดียวกับการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ยังมีการปิดล้อมผู้นำระดับประเทศที่สำคัญ จนไม่สามารถเดินทางออกไปภายนอกได้
ทั้งนี้ ผู้นำที่มาเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนมี 15 ประเทศที่เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยสูงกว่าร้อยละ 60 หรือ ประมาณ 8,500,000 คนต่อปี จากนักท่องเที่ยวที่มาไทยทั้งหมด 14 ล้านคนต่อปี จึงเชื่อว่ากลุ่มประเทศดังกล่าวลดความน่าเชื่อถือในมาตรฐานความปลอดภัยของไทยลง ทำให้การเดินทางมาไทยไม่ปลอดภัย และเป็นการปิดล้อมผู้นำของประเทศที่มาร่วมประชุมด้วย ซึ่งจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย
โดยประเมินมูลค่าความเสียหายครั้งนี้ว่าจะใกล้เคียงกับเมื่อครั้งมีการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 120,000 ล้านบาท ที่เป็นความเสียหายโดยรวมทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่ที่พัทยาเพียงจุดเดียวเท่านั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายที่ออกมาชุมนุมยุติการกระทำลง เพื่อประโยชน์ของประเทศ โดยในอนาคตภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอาจมีการปิดตัวลงอีกหลายราย จากการขาดทุน จนก่อให้เกิดการเลิกจ้างงานได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจได้ยากมากขึ้น เพราะประเทศเอเชียโดยรอบของไทยมองว่าสถานการณ์ความรุนแรงในไทยยังไม่สงบ และไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในการคุ้มครองนักท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะระดับผู้นำประเทศ จึงเชื่อว่าจะกระทบไปนานกว่า 9 เดือน จากเดิมที่เริ่มมีความคลี่คลายลงบ้างแล้ว และมองว่าจะมีอีกหลายประเทศจะประกาศเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้ามาในไทย