ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มความอยากลองให้นักลงทุนเสี่ยงเข้าเทรดสกุลเงินต่างประเทศ
การซื้อขายในตลาดเงินเป็นไปอย่างเบาบาง เนื่องจากตลาดในยุโรปปิดทำการเนื่องในวันหยุดอีสเตอร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการไตรมาสแรกของบรรดาธนาคารและสถาบันการเงินรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง โกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกน เชส
ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.08 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 100.52 เยน/ดอลลาร์ และร่วงลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1346 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1559 ฟรังค์/ดอลลาร์
ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 1.3358 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3165 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวันพฤหัสบดี และเงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4831 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4677 ดอลลาร์/ปอนด์
เมื่อวันเสาร์ธนาคารกลางจีนรายงานว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์จีนในเดือนมี.ค.พุ่งสูงขึ้นกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.89 ล้านล้านหยวน (2.77 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการขยายทางเศรษฐกิจจีนที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยเงินทุนหมุนเวียนในระบบ M2 เพิ่มขึ้น 25.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2541
ปัจจัยดังกล่าวเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และรายงานดังกล่าวได้ช่วยให้หุ้นจีนพุ่งขึ้นกว่า 3% ในการซื้อขายเมื่อวานนี้
นอกจากนี้ การซื้อขายสกุลเงินอื่นที่นอกเหนือจากเงินดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า จีนมีแผนที่จะประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อกระตุ้นการบริโภค