“มาร์ค ฟาเบอร์" ชี้นลท.ต่างชาติอาจเทขายหุ้นไทยหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงในประเทศ

มาร์ค ฟาเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนชื่อดังระดับโลก คาดการณ์ว่า นักลงทุนต่างชาติอาจเทขายหุ้นไทยหลังจากที่เกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรงในประเทศไทย

ฟาเบอร์ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก เรดิโอ จากประเทศไทยวานนี้ว่า การท่องเที่ยวและธุรกิจอื่นๆจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์รุนแรงทางการเมือง พร้อมกล่าวเสริมว่า เหตุการณ์วุ่นวายยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย

ทั้งนี้ ดัชนี SET Index ของไทยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในปีนี้ หลังจากที่ดิ่งลง 48% ในปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าเลวรายที่สุดในรอบกว่าสิบปี โดยตลาดหุ้นไทยจะกลับมาเปิดทำการตามปกติในวันที่ 16 เม.ย.นี้ หลังจากที่หยุดยาวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์

“สถานการณ์การเมืองในขณะนี้จะทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยน้อยลง และผู้จัดการพอร์ทการลงทุนอาจขายหุ้นที่ถืออยู่" ฟาเบอร์กล่าว “ผมยังไม่เห็นทางออกในระยะใกล้"

ฟาเบอร์กล่าวต่อไปว่า เงินบาทของไทยอาจได้รับผลกระทบไม่มากนักเนื่องจากอ่อนค่าอยู่แล้ว โดยเงินบาทร่วงลง 1.9% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา นับเป็นสกุลเงินที่อ่อนตัวที่สุดเป็นอันดับสองในบรรดา 10 สกุลเงินของเอเชียที่มีการซื้อขายกันอยู่ ไม่นับรวมสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น

“ผมไม่คิดว่า เงินบาทจะร่วงลงไปมากกว่านี้ เพราะมันก็ค่อนข้างต่ำมากอยู่แล้ว" ฟาเบอร์กล่าว “จริงๆแล้วไทยเกินดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเนื่องจากการนำเข้าลดลงมาก"

ทั้งนี้ การนำเข้าของไทยทรุดลง 43.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการลดลงมากสุดในรอบสิบปี หลังจากที่ร่วงลง 37% ในเดือนม.ค. โดยธนาคารกลางแห่งประเทศไทยเผยเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ว่า ยอดเกินดุลการค้าของไทยในเดือนก.พ.อยู่ที่ 3.95 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ช่วง 2 เดือนแรกของปี ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ