ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) เนื่องจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวลงและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงของสหรัฐ ได้แก่ ยอดขายปลีกและราคาค้าส่งเดือนมี.ค.ที่อ่อนตัวลงทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและตัดสินใจเข้าซื้อสกุลดอลลาร์และเงินเยน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 1.17% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.03 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 98.860 เยน/ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1331 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1364 ฟรังค์/ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.62% แตะระดับ 1.3363 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3280 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ดิ่งลง 0.45% แตะระดับ 1.4845 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4912 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.53% แตะที่ 0.7307 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7268 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 1.27% แตะระดับ 0.5914 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5839 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยราคาค้าส่งเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.2% ขณะที่ต้นทุนด้านพลังงานและอาหารร่วงลงอย่างหนัก โดยราคาพลังงานในเดือนมี.ค.ตกลง 5.5% เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขเดือนก.พ.ที่ขยายตัว 1.3% ราคาน้ำมันเบนซินร่วงลง 13.1% ขณะที่ราคาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ ร่วง 13.2% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ตกลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว