ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงภาวะถดถอยรุนแรงทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ขณะที่ค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตรียมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 99.340 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 98.780 เยน/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.51% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1433 ดอลลาร์/ฟรังค์ จากระดับ 1.1375 ดอลลาร์/ฟรังค์
ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลง 0.23% แตะระดับ 1.3221 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3252 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ดีดขึ้น 0.61% แตะที่ 1.4987 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4896 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.10% แตะระดับ 0.7282 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7203 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้นแตะระดับ 0.5815 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5812 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยและหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงหดตัวลง โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมร่วงลงรุนแรงเกินคาด 1.5% ในเดือนมี.ค. และอัตราการใช้กำลังผลิตร่วงลงสู่ระดับ 69.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปีค.ศ. 1967 เป็นต้นมา ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมจะลดลง 1.0% ในเดือนมี.ค. และอัตราการใช้กำลังผลิตจะอยู่ที่ 69.6% ในเดือนมี.ค.
ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ร่วงเกินคาด 0.1% ในเดือนมี.ค.หลังเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า CPI ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค.หลังเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ รวมถึงข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างประจำเดือนมี.ค., จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนเม.ย.ซึ่งจะมีการเปิดเผยในคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย ส่วนในวันศุกร์มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนเม.ย.