นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า เหตุการณ์วุ่นวายจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจปี 52 หดตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ และเป็นไปได้ที่จะหดตัวไปถึง 4.5-5% ตามที่นักวิชาการจากหลายสำนักคาดการณ์ และอาจทำให้เกิดปัญหาการว่างงานเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้เห็นได้จากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บรัฐบาลลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วย เนื่องจากประชาชนและนักลงทุนขาดความมั่นใจ อาจทำให้ไม่มีการใช้จ่ายหรือการลงทุน ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการได้ภายใต้งบประมาณที่มีจำกัด ก็จะต้องเร่งการกู้เงินเพื่อนำมาลงทุนผ่านโครงการลงทุนเมกะโปรเจ็คต์ 1.56 ล้านล้านบาท
"การกู้เงิน 1.56 ล้านบาทจะเป็นการกู้เงินในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพารายได้ของรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าสภาพคล่องในประเทศขณะนี้ยังมีอยู่สูงรองรับการกู้เงินของรัฐบาลได้โดยไม่กระทบต่ออัตราผลตอบแทนในตลาด เนื่องจากภาคเอกชนเองไม่มีการขยายการลงทุนในระยะนี้"นายกรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง เห็นว่าจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ทำให้สถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไป ดังนั้น คงต้องติดตามธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกหรือไม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ประชุมครั้งลาสุดปรับลดดอกเบี้ยไปเพียง 0.25%
รมว.คลัง เห็นว่า การใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการกู้เงิน 1.56 ล้านล้านบาทนั้น จะยังไม่เกิดผลโดยเร็ว ดังนั้น การลดดอกเบี้ยควรจะเป็นนโยบายเสริมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ