ยู ซอง นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป กล่าวถึงเศรษฐกิจจีนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในช่วงที่เปราะบางอยู่มาก เนื่องจากจีนยังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งจากการลงทุนภายในประเทศ และความเสี่ยงช่วงขาลงจากความต้องการในต่างประเทศที่อ่อนตัวลงและจะยังคงอ่อนลงไปเช่นนี้อีก
วันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ขยายตัว 6.1% จากระดับปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นสถิติการขยายตัวที่ชะลอตัวมากที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี และยังเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.2% โดยในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจจีนขยายตัว 6.8%
เศรษฐกิจจีนเริ่มส่งสัญญาณต่างๆให้เห็นว่าแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมุลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.85 แสนล้านดอลลาร์ของนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่านั้นกำลังส่งผลให้เห้นในทางปฏิบัติ โดยการปล่อยเงินกู้ของธนาคารก็ทะยานขึ้น และยังทำให้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน สภาจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จะลดภาษีการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท รวมทั้งให้สินเชื่อราคาถูกกว่าเดิมแก่กลุ่มผู้ผลิต เพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้าทางเรือ
รายงานตัวเลข GDP ของจีนวันนี้ ยังสอดคล้องกับที่นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐที่ออกมากล่าวว่า จีนไม่ได้ผูกขาดเงินหยวน ซึ่งจุดยืนดังกล่าวช่วงผ่อยคลายแรงกดดันที่มีต่อจีนในการเปิดทางให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น และส่งผลกระทบต่อความพยายามในการฟื้นธุรกิจส่งออก
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ไปจนถึงสิ้นปีที่แล้ว เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเพียง 0.4% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ มูลค่าเงินหยวนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเท่านั้นนับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเมื่อวานนี้ เงินหยวนปิดที่ 6.8325 หยวนต่อดอลลาร์