นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในสหรัฐประจำเดือนมี.ค.จะร่วงลง 7.4% แตะระดับ 540,000 ยูนิต/ปี หลังจากตัวเลขดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายในเดือนก.พ. ขณะที่นายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ต่างเร่งระบายบ้านค้างสต็อก
ไรอัน สวีท หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Moody’s Economy.com ในมลรัฐเพนซิลวาเนียกล่าวว่า จำนวนบ้านค้างสต็อกที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคาบ้านทรุดตัวลงทั่วสหรัฐ และเป็นเหตุให้บริษัทรับสร้างบ้านชะลอโครงการใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดจำนวนบ้านที่ถูกยึด และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งใช้นโยบายซื้อหลักทรัพย์เพื่อกระตุ้นดีมานด์ในตลาด
ดัชนี S&P Case/Shiller Index ซึ่งเป็นดัชนี้บ่งชี้ราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ๆของสหรัฐบ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐในสหรัฐเดือนม.ค.ร่วงลง 19% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงรวดเร็วสุดเป็นประวัติการณ์
เฟดคาดการณ์ว่า ราคาบ้านในสหรัฐจะร่วงลงอีกในปีนี้ และยังไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นตัวขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อบริษัทสร้างบ้านและภาพรวมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฟดคาดว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างจะหดตัวไปจนถึงช่วงปลายปีนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านประจำเดือนมี.ค.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย