ตลาดรถยนต์ในยุโรปชะลอตัวลงเหลือ 9% ในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 11 ขณะที่รัฐบาลได้ใช้มาตรการจูงใจเพื่อกระตุ้นดีมานด์เพิ่มยอดขายรถเฟียตและโฟล์คสวาเกนในเยอรมนีและฝรั่งเศสแล้วก็ตาม
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของยุโรปเปิดเผยว่า ยอดการทดทะเบียนซื้อรถในเดือนมี.ค.ร่วงลงเหลือ 1.51 ล้านคัน จากระดับปีที่แล้วที่ 1.66 ล้านคัน สำหรับไตรมาส 1 นั้น ยอดขายร่วงลง 17% เหลือ 3.44 ล้านคัน
ทั้งนี้ ยอดขายรถที่ลดลงนั้นชะลอตัวลงหลังจากที่อ่อนตัวลงไป 18% ในเดือนก.พ. และดิ่งลง 27% ในเดือนม.ค. หลังจากที่รัฐบาลได้ใช้มาตรการจูงใจจนทำให้ตลาดบางแห่งฟื้นตัวขึ้น โดยในเยอรมนีนั้น รัฐบาลได้เปิดตัวข้อเสนอซื้อรถที่มีอายุการใช้งานนาน 9 ปีหรือมากกว่านั้นในราคา 2,500 ยูโร หรือ 3,300 ดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนซื้อขายรถเพิ่มขึ้น 40% ในเดือนมี.ค. ขณะที่การใช้มาตรการกระตุ้นในฝรั่งเศสช่วยให้ยอดขายรถในประเทศเพิ่มขึ้น 8%
บลูมเบิร์กรายงานว่า สมาคมผู้ผลิตฯระบุว่า ยอดขายรถยังคงอ่อนตัวลงต่อไปในตลาดที่ไม่ได้มีการใช้มาตรการจูงใจหรือการส่งเสริมการขาย โดยตลาดรถในอังกฤษที่ร่วงลง 31% แสดงให้เห็นถึงสภาพการขาดความมั่นใจอย่างต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจ ส่วนยอดขายรถในยุโรปตะวันตกร่วง 8% ยุโรปตะวันออกดิ่งลง 25%
ทั้งนี้ ยอดขายรถหรูของเยอรมนีอย่าง Bayerische Motoren Werke AG ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถหรูอันดับ 1 ของโลก ร่วงลงถึง 21% เหลือ 73,904 คัน เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงตลาดสินเชื่อที่ตึงตัวขึ้นทำให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อรถ ส่วนยอดขายของเมอร์เซเดสของเดมเลอร์ เอจี ร่วง 16%
ขณะที่ยอดขายของเปอโยต์ ซีตรอง ซึ่งเป็นบริษัทรถรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยุโรป อ่อนตัว 9% ส่วนยอดขายของเรโนลต์ ร่วง 11%